เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคณะรัฐมนตรีมีมติรับในหลักการร่างพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ให้มีการศึกษาว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นศรษฐกิจ การท่องเที่ยวนั้น จะมีอะไรที่สามารถผ่อนปรนได้แล้วนำผลการศึกษานั้นมาพิจารณาปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว และปรับปรุงให้สมดุลทั้งสุขภาพ เศรษฐกิจ ว่า เนื่องจากร่างพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการเสนอแก้เข้ามาหลายฉบับ ทั้งของพรรคการเมือง ภาคประชาสังคม ส่วนร่างของรัฐบาล ที่เสนอโดยกระทรวงสาธารณสุข ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีไปแล้ว โดยเขียนออกมาแนวกลางๆ เหมือนกับฉบับที่เสนอโดยภาคประชาชน ที่ออกมากลางๆ เช่นกัน ในขณะที่ร่างฉบับพรรคการเมือง ออกมาในลักษณะที่ไม่ตรงกัน ค่อนข้างแรงกว่า จึงต้องอยู่ที่ส่วนสุดท้าย คือ กรรมาธิการจะบูรณาการอย่างไร ซึ่งเมื่อวันที่ 3 มี.ค. นายกรัฐมนตรีก็กรุณาให้บุคลากรที่จะจับเรื่องนี้มาลองรวบรวมประเด็นที่สมควรว่าจะออกมาเป็นอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งเรื่องสุขภาพ เศรษฐกิจ และอื่นๆ ด้วย

“มันมีหลายประเด็นในเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งคำนิยาม เวลาเปิดปิด เวลาการจำหน่าย เรื่องติดฉลากคำเตือน มีหลายอย่าง เมื่อมีความเห็นไม่ตรงกันก็ต้องหาคนกลาง ถ้าดีที่สุดเวลากฎหมายเข้าไปสู่สภา ตามประเพณีปฏิบัติ สภาก็จะรับรองทุกร่าง แล้วจะเอาร่างไหนเป็นหลัก ส่วนใหญ่ก็ใช้ร่างของรัฐบาลเป็นหลัก แต่ก็สามารถนำเอาส่วนของพรรคการเมืองเข้ามาใช้ได้ในบางมาตราที่เอามาผสมผสานกันได้ อยู่ที่เทคนิคของประธานกรรมาธิการและกรรมาธิการวิสามัญชุดนั้นๆ” นายสมศักดิ์กล่าว

ถามว่าจากมติ ครม.ที่ออกมาทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลจะผลักดันด้านเศรษฐกิจเพื่อเอื้อกลุ่มธุรกิจอย่างเดียว  นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ แต่เป็นภาพรวมทุกมุม ถ้าไปมองมุมใดมุมหนึ่งแล้ว ก็อาจจะเป็นคำตอบเหมือนคำถามที่ถามมา ถ้ามองให้เป็นเรื่องก็จะเป็นเรื่อง ถ้ามองว่าจะเป็นเรื่องที่หาทางให้ได้ประโยชน์สูงสุดในทุกมุม ทั้งความปลอดภัย เศรษฐศาสตร์ การปกครองต่างๆ เรื่องปกติเวลาจำหน่ายต่างๆ ก็เปิดไว้ให้แล้ว เช่น สถานบริการถูกกฎหมาย เป็นต้น

ถามว่ามีข้อมูลเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว พบว่า มาจากอาหารและเครื่องดื่มเพียง 1 ใน 6 เท่านั้น จะเอาไปชี้แจงต่อ ครม.ที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องให้รวบรวม คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ก็มีมติให้ไปรวบรวมและทำแนวทางการศึกษาในข้อเท็จจริงทุกมุมในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งการพิจารณาก็ต้องเอาไปใช้ทั้งหมด จะใช้ครึ่งเดียวไม่ได้

“วันนี้โลกสมัยใหม่ คนหนุ่มคนสาวก็ไม่เหมือนคนหนุ่มคนสาวในรุ่นปู่ย่า ความคิดแนวทางต่างๆ เปลี่ยนไป รัฐบาลก็ต้องฟัง แล้วจะออกมาในรูปแบบคนส่วนใหญ่ยอมรับได้ ถ้าไม่ฟังเขาก็ว่าเป็นคนโบราณ ใครก็ไม่อยากถูกกล่าวหาว่าโบราณ” นายสมศักดิ์กล่าว

ถามย้ำว่าที่ให้มีการไปพิจารณาผ่อนปรนเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ในการทำสาระร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มียกตัวอย่างหรือไม่ว่าเป็นเรื่องอะไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เห็นมี ก็ประชุมตรงไปตรงมา

ถามต่อว่ากังวลว่าจะเป็นการปลุกม็อบมาหรือไม่  นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราก็มีม็อบมาตลอด ถ้าเรามีเหตุมีผลก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่มีเหตุมีผลมันก็ไม่ตก.