สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) พบว่า แอปเปิลใช้ข้อจำกัดกับผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน เพื่อไม่ให้พวกเขาแจ้งผู้ใช้ระบบปฏิบัติการไอโอเอส เกี่ยวกับบริการสมัครสมาชิกสตรีมมิ่งเพลงอื่น ๆ ที่มีราคาถูกกว่า นอกแอปสโตร์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว ถือว่าผิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของอียู

แม้การปรับขั้นพื้นฐานสำหรับการละเมิดกฎระเบียบของอียู อยู่ที่ 40 ล้านยูโร (ราว 1,500 ล้านบาท) แต่นางมาร์เกรเธอ เวสทาเกอร์ ข้าหลวงด้านการแข่งขันทางการค้าของอีซี กล่าวว่า ค่าปรับข้างต้นเป็นเหมือน “ใบสั่ง” สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอปเปิล ด้วยเหตุนี้ อีซีจึงเพิ่มจำนวนเงินเป็น 1,800 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 0.5% ของมูลค่าการซื้อขายทั่วโลกของแอปเปิล และถือเป็นการลงโทษปรับต่อต้านการผูกขาดครั้งใหญ่เป็นอันดับสาม

อนึ่ง คดีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังบริษัท สปอติฟาย ยักษ์ใหญ่ด้านสตรีมมิ่งเพลงสัญชาติสวีเดน ยื่นคำร้องเมื่อปี 2562 จนทำให้เกิดการสอบสวนแอปเปิล ในปี 2564 ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการของแอปเปิล ซึ่งป้องกันไม่ให้แอปพลิเคชันต่าง ๆ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลือกการสมัครสมาชิกสตรีมมิ่งเพลงคู่แข่ง แก่ผู้ใช้งาน

“การกระทำของแอปเปิล ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคชาวยุโรปหลายล้านคน ซึ่งผู้บริโภคบางรายอาจจ่ายเงินมากขึ้น เพราะพวกเขาไม่รู้ว่า หากสมัครสมาชิกนอกแอปสโตร์ พวกเขาจะจ่ายเงินน้อยลง” เวสตาเกอร์ กล่าวเพิ่มเติม

ขณะที่นักวิจารณ์หลายคนชี้ให้เห็นว่า บทลงโทษดังกล่าวเป็น “จำนวนเงินเล็กน้อย” เมื่อเทียบกับผลกำไรของแอปเปิล ซึ่งอยู่ที่ 33,920 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.2 ล้านล้านบาท) ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2566

อย่างไรก็ตาม อียูคาดหวังว่า ค่าปรับนี้จะช่วยทำให้แอปเปิล ยุติการจำกัดการเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งของคู่แข่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการภายใต้กฎหมายการให้บริการดิจิทัล (ดีเอสเอ) ที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม ภายในวันที่ 7 มี.ค. นี้.

เครดิตภาพ : AFP