สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ ประเทศเฮติ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ว่า หนังสือพิมพ์ เลอ นูเวลลิสเต ของเฮติ รายงานว่า กองทัพเฮติกระจายกำลังทหารลงพื้นที่ ท่าอากาศยานนานาชาติตูแซ็ง ลูแวร์ตูร์ ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ เพื่อรักษาความปลอดภัย หลังเกิดเหตุแก๊งอาชญากรรมพยายามจู่โจม เพื่อยึดครองสนามบิน


ทั้งนี้ รัฐบาลเฮติประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ เป็นเวลาอย่างน้อย 72 ชั่วโมง ตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อควบคุมสถานการณ์รุนแรงในประเทศ จากการลุกฮือของแก๊งอาชญากรรม ซึ่งก่อเหตุบุกเรือนจำสองแห่ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย และนักโทษหลายพันคนหลบหนี แต่หลายฝ่ายวิตกกังวลว่า จำนวนผู้เสียชีวิตแท้จริงน่าจะสูงกว่าที่มีการเปิดเผยมาก


อนึ่ง วิกฤติการณ์ในเฮติทวีความรุนแรงขึ้นอีกระดับ นับตั้งแต่เกิดการลอบสังหารประธานาธิบดีโฌเวเนล โมอิส เมื่อปี 2564 ซึ่งหลังจากนั้น ทุกฝ่ายในเฮติยังไม่สามารถเฟ้นหาบุคคลดำรงตำแหน่งแทนได้ จากการที่สถานการณ์การเมืองขาดเสถียรภาพอย่างหนักอยู่แล้ว โดยไม่เคยมีการจัดการเลือกตั้ง ไม่ว่าในระดับใดก็ตาม ตั้งแต่ปี 2559


ขณะที่บรรดาแก๊งอาชญากรรมซึ่งตอนนี้ควบคุมพื้นที่ 80% ของกรุงปอร์โตแปรงซ์ เรียกร้องนายอาเรียล อ็องรี นายกรัฐมนตรี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาการประธานาธิบดีเฮติ ให้ลาออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ สถานะของอ็องรียังไม่เป็นที่แน่ชัด โดยเจ้าตัวอยู่ระหว่างการเยือนเคนยา เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนอีก หลังลงนามในข้อตกลงความร่วมมือทวิภาคี กับประธานาธิบดีวิลเลียม รูโต ผู้นำเคนยา


แม้หลังจากนั้นมีรายงานว่า อ็องรีเดินทางออกจากเคนยาแล้ว แต่สถานะยังคงคลุมเครือ โดยทางการเปอร์โตริโกยืนยันว่า เครื่องบินส่วนตัวของอ็องรีลงจอดที่สนามบิน ทว่าไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ว่าผู้นำเฮติยังอยู่ที่นี่ หรือเดินทางออกไปแล้ว


ด้านนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แสดงความวิตกกังวลอย่างหนักต่อสถานการณ์รุนแรงครั้งใหม่ในเฮติ และเรียกร้องความสนับสนุนเพิ่มเติมจากนานาประเทศ ต่อภารกิจตำรวจนานาชาติ


ส่วนกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์ แสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ในเฮติเช่นกัน และยืนยันว่า อ็องรีจะเดินทางกลับประเทศ โดยไม่มีการระบุรายละเอียดเพิ่มเติม.

เครดิตภาพ : AFP