สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ว่า ทีมนักวิจัยระบุในวารสาร The Lancet Infectious Diseases ว่า ระบบภูมิคุ้มกันของชายคนดังกล่าว ซึ่งมีอายุ 62 ปี และไม่เปิดเผยชื่อ ยังคงทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ แม้เขาเข้ารับการฉีดวัคซีนหลายโด๊สด้วยความสมัครใจ โดยขัดต่อคำแนะนำทางการแพทย์ก็ตาม

ชายคนนี้ได้รับความสนใจจากกลุ่มนักวิจัยที่นำโดยชาวเยอรมันเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2565 ซึ่งในเวลานั้นมีรายงานข่าวว่า เขาฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 90 ครั้ง และตกเป็นผู้ต้องสงสัยเข้าข่ายจงใจฉีดวัคซีน เพื่อรวบรวมบัตรการฉีดวัคซีน ก่อนที่จะนำไปปลอมแปลง และขายให้กับผู้ที่ไม่ต้องการฉีดวัคซีนได้

อนึ่ง อัยการในเมืองมักเดอบวร์ก เปิดการสอบสวนข้อกล่าวหาข้างต้น โดยไม่ยื่นฟ้องคดีอาญา และรวบรวมหลักฐานการฉีดวัคซีน 130 ครั้ง ในช่วง 9 เดือน แต่ชายคนดังกล่าวอ้างว่า เขาได้รับวัคซีนป้องกันโควิด 8 ชนิด จำนวนรวม 217 โด๊ส ในช่วงเวลา 29 เดือน

ด้านนายคิเลียน โชเบอร์ นักไวรัสวิทยาจากมหาวิทยาลัยเออร์ลานเกน-นูเรมบวร์ก ของเยอรมนี และผู้เขียนร่วมของการศึกษา กล่าวในแถลงการณ์ว่า พวกเขาติดต่อหาชายคนนี้ และเขารู้สึก “สนใจมาก” ที่จะเข้ารับการทดสอบต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบผลกระทบของการฉีควัคซีนหลายเข็ม ส่งผลให้บรรดานักวิจัยมีโอกาสหายากในการศึกษาสิ่งที่เรียกว่า “การฉีดวัคซีนมากเกินไป”

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์บางคนตั้งทฤษฎีว่า หลังจากบุคคลได้รับวัคซีนหลายโด๊ส เซลล์ภูมิคุ้มกันของร่างกายจะมีประสิทธิภาพน้อยลง เพราะความคุ้นเคยกับแอนติเจน แต่นักวิจัยพบว่า ร่างกายของชายชาวเยอรมันรายนี้ ไม่แสดงอาการเหนื่อยล้า และไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ จากการฉีดวัคซีนจำนวนมาก มิหนำซ้ำ การฉีดวัคซีนครั้งที่ 217 ของเขา ยังคงเพิ่มจำนวนแอนติบอดีต่อเชื้อไวรัสโควิดอีกต่างหาก

อย่างไรก็ตาม ทีมนักวิจัยกล่าวเตือนว่า นี่เป็นการศึกษาประสบการณ์ของชายคนดังกล่าวเท่านั้น และพวกเขาไม่สนับสนุนการฉีดวัคซีนเกินขนาด.

เครดิตภาพ : AFP