อนุมัติงบกลาง 239 ล้านบาท ในคดีจัดจ้างโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 ทำให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ และเป็นการเอื้อประโยชน์โดยมิชอบ โดยศาลได้มีมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ยกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และจำเลยทั้งหมด พร้อม ถอนหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่หลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศด้วย 

ก่อนหน้านี้วันที่ 26 ธ.ค. 66 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาให้ ยกฟ้อง-ถอนหมายจับ ในคดีที่ยิ่งลักษณ์ ถูกกล่าวหาว่าทำผิด มาตรา 157 จากกรณีโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี จากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยมิชอบ โดยศาลฯ ชี้ว่า “ไม่มีเจตนาทุจริต” ทำให้นายถวิลเดินหน้าสู้ต่อ ด้วยการยื่นขออุทธรณ์ต่ออัยการสูงสุดทันที

เท่ากับว่า ตอนนี้ “ยิ่งลักษณ์” อดีตนายกรัฐมนตรี มีชนักติดหลังซึ่งยังไม่หมดอายุความทั้งทางแพ่งและอาญา คือ คดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการจำนำข้าว ซึ่งมีโทษจำคุก 5 ปี

ซึ่งถ้าจะสังเกตให้ดี จะพบว่าในช่วง 3 เดือน ที่ผ่านมา “ยิ่งลักษณ์” หลุดบ่วงคดีปลอดโปร่งมาแล้ว 2 คดี ติดต่อกันรัวๆ ถือเป็นการส่งสัญญาณบวกต่อคนในครอบครัว “ชินวัตร” และถูกมองว่า กำลังเตรียมกลับประเทศไทยตามรอย “พี่ชาย” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษที่อยู่ในช่วงโปรโมชั่นจากราชทัณฑ์ ให้ “พักโทษ” กลับไปอยู่ที่บ้าน “จันทร์ส่องหล้า” เป็น “กลับบ้านอย่างเท่ๆ โดยไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว”

โดยดูจากปฏิกิริยาจากคนในครอบครัวอย่าง “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า “อาปู” บอกว่า “หากได้กลับจริงๆ ก็จะช่วยเลี้ยงหลาน ในเรื่องของความหวัง เราพูดกันอยู่แล้วและพูดทุกปี บ้านเราต้องมีความหวัง ตั้งแต่สมัยคุณพ่อ 17 ปี ที่คุณพ่ออยู่เมืองนอก ก็พูดทุกปีว่าจะกลับบ้าน และก็หวังว่า อาปู จะได้กลับบ้าน เพราะถึงอย่างไร ก็ไม่สบายเหมือนอยู่บ้าน”

ขณะที่ “ตุ๊ดตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ก็ พลิกตำราคนคุก ทันที เชื่อว่าโอกาสที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี จะกลับไทย จะอยู่ช่วงหลังสงกรานต์เป็นต้นไป ซึ่งน่าจะกลับบ้านตามช่องทาง “ใช้บ้านขังแทนคุก” แล้วอาศัย “โมเดลทักษิณ” กรุยทางไว้ ไปขออภัยโทษเฉพาะราย จาก 5 ปี เหลือ 1 ปี ตามด้วยอภัยโทษใหญ่วันเฉลิมพระชนมพรรษา เดือน ก.ค. 67 อีกครั้ง ย่อมได้พักโทษจนหมดโทษ

เช่นเดียวกับ “เดอะคึก” เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่า “กฎหมายไทยยืดหยุ่นได้ตามผู้มีอำนาจ” เพราะกรณีของนายทักษิณ มีการใช้ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 2560 ใช้หลักเกณฑ์ในการพักโทษพิเศษ ซึ่งไม่เคยใช้เงื่อนไขนี้มาก่อนเลย แต่ก็สามารถทำได้ เพราะฉะนั้นถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับมาประเทศไทย รับประกันได้ว่า จะมีระเบียบออกมารองรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จนไม่ต้องถูกคุมขังแม้แต่วันเดียว และจะอยู่สุขสบาย มีสิทธิพิเศษเหนือนักโทษทั่วไปอย่างแน่นอน

ส่วน นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มองว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนไทย ก็สามารถกลับเข้าประเทศได้ตลอดเวลา เพียงแต่เมื่อกลับเข้ามาแล้ว ก็ต้องยอมรับกระบวนการยุติธรรม ศาลจำตัดสินจำคุก 5 ปี ก็ต้องรับโทษ เว้นแต่จะดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด แต่ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อายุ 56 ปี เข้าประเทศมาแล้ว ไม่รับกระบวนการยุติธรรม แต่ทำซ้ำ ไปอยู่ชั้น 14 โดยอ้างว่าป่วย เพื่อที่จะพักโทษอีก เชื่อว่าจะเกิดวิกฤติศรัทธากระบวนการยุติธรรมแน่นอน  

จุดนี้ก็ต้องวัดใจ “ทีมกฎหมาย” ว่าจะใช้ อภินิหารทางกฎหมาย ในรูปแบบไหน ที่จะให้ “ยิ่งลักษณ์” อดีตนายกรัฐนตรี เข้าเงื่อนไข กลับบ้าน หลังต้องหลบหนีไปใช้ชีวิตในต่างประเทศมาแล้ว 6 ปี กับ 6 เดือน.