พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข เลขานุการประจำประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ทำหน้าที่โฆษกด้านกฎหมาย เปิดเผยว่า บอร์ด กสทช. ได้จัดการประชุมบอร์ดวาระพิเศษ เมื่อวันที่ 12 มี.ค. กรณี นางสุรางคณา วายุภาพ ยื่นฟ้องประธาน กสทช. และคณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช. ต่อศาลปกครอง กรณีการสรรหาเลขาธิการ กสทช. ซึ่ง กสทช. ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลปกครอง ที่จะครบกำหนดภายในวันที่ 17 มี.ค. นี้ โดยนางสุรางคณา ฟ้องประธาน กสทช. เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1 และบอร์ด กสทช. 7 คน เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 2 หลังจากที่มีการเลื่อนคำให้การมาแล้ว 2 ครั้ง

ทั้งนี้ในที่ประชุมมีการชี้แจงว่ากระบวนการสรรหาเลขาธิการ กสทช. เป็นอำนาจของประธาน กสทช. ตามมาตรา 61 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) นอกจากนี้จะมีการนำผลการพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ที่ตัดสินยกฟ้องประธาน กสทช. กรณีนายภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการ กสทช. ฟ้องประธาน กสทช. ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีประธาน กสทช. ไม่แต่งตั้งนายภูมิศิษฐ์ เป็นรักษาการเลขาธิการ กสทช. แทนนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ในกรณีถูกสอบคดีบอลโลก โดยเนื้อหาส่วนหนึ่ง ในคำตัดสินระบุว่า มาตรา 61 พ.ร.บ.กสทช. บัญญัติให้ประธาน กสทช. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ กสทช. เป็นผู้แต่งตั้งและถอดถอนเลขาธิการ กสทช.

พ.ต.อ.ประเวศน์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การฟ้องร้องครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับประธานโดยตรง ขณะที่บอร์ดคนอื่นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง เพราะกระบวนการสรรหาอยู่ที่ประธาน กสทช. ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกันกับเนื้อหาที่จะชี้แจงต่อศาล สำหรับกระบวนการสรรหาเลขาธิการ กสทช. ขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการต่อ เนื่องจากที่ประชุมบอร์ด กสทช. ยังไม่ได้รับรองรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 67 ที่มีมติไม่เห็นชอบกระบวนการสรรหาเลขาธิการ ของประธาน กสทช. โดยมติที่กรรมการลงในการประชุมไม่ตรงกับมติที่ประธานให้ลงมติ ทำให้มีปัญหาที่ต้องแก้ไขและสรุปมติอีกครั้ง โดยคาดว่าจะนำเข้าพิจารณาต่อไปในการประชุมบอร์ดในวันที่ 20 มี.ค. 67 นี้

ด้านแหล่งข่าวจาก กสทช. กล่าวว่า ในคำให้การที่ต้องเสนอต่อศาลปกครอง ได้มีการปรับแก้เนื้อหาอยู่ 4 ประเด็น ได้แก่ 1.การตัดข้อความที่ระบุว่า ปัจจุบันนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล ดำรงตำแหน่งเป็น รักษาการเลขาธิการ กสทช. ซึ่งเสียงที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นว่า เป็นข้อความที่ไม่เกี่ยวข้องกับการฟ้องร้องครั้งนี้ เพราะเป็นการฟ้องเรื่องกระบวนการสรรหาเลขาธิการ กสทช.

2.เนื้อหาที่ระบุว่า กรรมการเสียงข้างมากทั้ง 4 คน คือ พลอากาศโท ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ, นางสาวพิรงรอง รามสูต, นายศุภัช ศุภชลาศัย และนายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ มีส่วนร่วมในการออกคำสั่งทางปกครอง ซึ่งความหมายของคำสั่งทางปกครอง หมายความว่าเป็นมติบอร์ด จึงขอให้เติมข้อความให้ชัดเจนว่า เป็นคำสั่งลงชื่อโดยประธานเพียงคนเดียว เพราะการสรรหาไม่ได้เกี่ยวข้องกับบอร์ด กสทช.

3.ให้ตัดเนื้อหาที่ระบุว่า มีส่วนร่วมในการสรรหา และมีส่วนร่วมในการสัมภาษณ์ออก เนื่องจากบอร์ดมีส่วนร่วมเพียงการรับฟังวิสัยทัศน์ เพื่อทราบข้อมูลในการหารือหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกร่วมกัน แต่เมื่อเข้าประชุมแล้ว กรรมการกลับมีหน้าที่เพียงรับฟังวิสัยทัศน์ และไม่ได้มีการวางหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกแต่อย่างใด

4.การตัดรายงานการประชุมเรื่องการลงมติสรรหาเลขาธิการ กสทช. ออก เนื่องจากในการประชุมเพื่อลงความเห็น ยังไม่มีการสรุปรายงานการประชุม เนื่องจากการลงมติการประชุม กรรมการเสียงข้างมากลงมติไม่เห็นชอบกระบวนการสรรหา ขณะที่กรรมการเสียงข้างน้อย ลงมติเห็นชอบนายไตรรัตน์ เป็นเลขาธิการ กสทช. ดังนั้นจึงขอแยกเรื่องนี้ให้มีการสรุปเป็นมติที่ประชุมให้เรียบร้อยก่อน จึงส่งให้ศาลต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในเอกสารชี้แจง ยังมีการแนบความเห็นส่วนตัวของบอร์ด กสทช. ทุกคนด้วย แต่ประธานขอให้นำออก เหลือแต่ความเห็นประธานคนเดียว ดังนั้นที่ประชุมจึงขอให้นำออกทั้งหมด และหากบอร์ดคนไหนต้องการเสนอความเห็นส่วนตัวต่อศาล ก็ให้ต่างคนต่างเสนอต่อศาลในภายหลัง