เมื่อวันที่ 14 มี.ค. จากกรณีเหตุการณ์ ร.ต.อ.อรรถพร เปรมจิตร์ อายุ 59 ปี ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ประจำศาลจังหวัดราชบุรี อ้างว่าถูก นายจอร์น วัย 73 ปี ชายชาวอเมริกัน ทำร้ายร่างกายโดยการบีบคอ จนทำให้เกือบเสียชีวิต ที่บริเวณหน้าร้านขายของชำในหมู่บ้าน ที่บ้านเลขที่ 177/15 หมู่ 3 ต.โคกหม้อ อ.เมืองราชบุรี จ.ราชบุรี เมื่อช่วงดึกของวันที่ 6 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (13 มี.ค.) นายจอร์น พร้อมด้วยภรรยา เดินทางมากับทนายความ และล่ามแปลภาษา เข้ารับทราบข้อกล่าวหาต่อหนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี

พ.ต.ท.ปิยะชัย มั่นคง รองสารวัตรสอบสวน ในฐานะโฆษกตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนได้เชิญ นายจอร์น ในฐานะผู้ต้องหา มารับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำ โดยทางพนักงานสอบสวนได้จัดหาล่ามแปลภาษา เนื่องจากนายจอร์น ไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยได้ จากการสอบสวนเบื้องต้นทางผู้เสียหายบอกว่า ถูกนายจอร์นเข้ามาทำร้ายร่างกาย ในลักษณะถูกบีบคอ ซึ่งตรงนี้ต้องรอผลพิสูจน์จากทางแพทย์ว่ามีบาดแผล หรือร่องรอยของการถูกบีบคอ ใกล้จุดสำคัญที่อาจจะทำให้เสียชีวิตหรือไม่ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นทางนายจอร์นได้ปฏิเสธในข้อหาพยายามฆ่า แต่ยอมรับว่าได้ด่าคำหยาบคาย พร้อมทั้งขอโทษและรู้สึกเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ในชั้นพนักงานสอบสวน เบื้องต้นได้ตั้งข้อหากับ นายจอร์น 2 ข้อหา ดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าและข้อหาพยายามฆ่า ในส่วนประเด็นเพิ่มเติมที่วันนี้มีผู้เสียหายอีกหนึ่งราย คือ นายบอย ผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือเพื่อแยกทั้งคู่ออกจากกัน กล่าวอ้างว่าถูกนายจอร์นขับรถจะเข้ามาชนตนเอง วันนี้ได้มาแจ้งให้ตำรวจดำเนินคดีกับนายจอร์น ในข้อหาพยายามฆ่าเช่นกัน

โดยภรรยานายจอร์น กล่าวว่า ขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจ และได้ขอโทษไปแล้ว ไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่โตไปกว่านี้ ถ้ายุติได้ก็อยากให้ยุติ มันเป็นการเข้าใจผิดกันทางด้านภาษา ความจริงอยากจะขอโทษทุกฝ่าย ที่เกิดผลกระทบและเดือดร้อนกันไปหมด ซึ่งสามีพูดภาษาไทยไม่ได้ จึงเป็นตัวแทนออกมาพูดในครั้งนี้

ด้านนายจอร์น พูดผ่านล่ามว่า มันมีหลายคนที่ทำไม่ดีเยอะ สิ่งไม่ดีเยอะ แต่หวังว่า ทุกสิ่งอย่างจะดีขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้สอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ เพราะให้การไปหมดแล้ว

ด้านนายทัศไนย เล้าพุนพิทยะ ทนายความ กล่าวว่า ได้พานายจอร์น มารับฟังข้อกล่าวหา มีข้อหาพยายามฆ่า และข้อหาดูหมิ่นผู้อื่น ซึ่งหน้า โดยวันนี้นายจอร์น ได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และได้ยอมรับว่า พูดในคำที่ไม่สุภาพ เพราะต้องการจะรีบกลับบ้าน จึงพูดในคำที่ไม่สุภาพไป แต่ด้วยการสื่อสารอาจจะเข้าใจผิดกับทางผู้เสียหาย และยอมรับในสิ่งที่ตัวเองพูด ในข้อหาดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า และยอมรับผิด แล้วก็จะเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหาย ส่วนข้อหาพยายามฆ่านายจอร์น ก็ปฏิเสธข้อกล่าวหา ไม่มีเจตนาที่จะฆ่าผู้อื่น และเจตนาที่จะทำร้ายผู้ใด เป็นการเข้าใจผิดกัน เป็นการสื่อสารคลาดเคลื่อน จึงทำให้เหตุการณ์มันบานปลาย โดยในวันนี้นายจอร์นกับภรรยา ก็เข้ามาแสดงความรับผิดชอบ วันเกิดเหตุก็ได้ซื้อส้มเป็นลังใหญ่ๆ เพื่อขอโทษ ตามความที่เข้าใจผิดไป ก็อยากให้ทุกคนให้อภัยและเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น