เมื่อวันที่ 17 มี.ค. นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรนั้น ล่าสุด ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้รับรายงานจากกรมปศุสัตว์ว่า เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ จังหวัดตาก ปศุสัตว์จังหวัด และเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจราชมนู “ชุดเฉพาะกิจพญานาคราช” ได้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายบนถนนเส้นทางระหว่างอ่างเก็บน้ำห้วยลึกไปยังจุดตรวจห้วยหินฝน ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ขณะปฏิบัติหน้าที่ได้พบรถบรรทุก 6 ล้อ ฮีโน่ สีขาว คลุมผ้าใบรอบคัน ทะเบียน 70-3130 สุโขทัย เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเรียกตรวจสอบ

จากการตรวจสอบพบโคเพศผู้ 26 ตัว โดยมีนายสุเมธ เป็นคนขับ จึงขอตรวจสอบใบอนุญาตในการเคลื่อนย้ายสัตว์ให้เจ้าหน้าที่สารวัตรกรมปศุสัตว์ทำการตรวจสอบแต่ไม่สามารถนำมาให้ได้ จึงแจ้งข้อกล่าวหา ทำการเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ ภายในเขตเฝ้าระวังโรคระบาดปากและเท้าเปื่อย โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 22 บทลงโทษมาตรา 65 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้หาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด ส่วนของกลางโคมีชีวิต พนักงานสอบสวนได้ส่งมอบให้เจ้าหน้าปศุสัตว์ดำเนินการตามระเบียบกรมปศุสัตว์ต่อไป

โฆษกกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่า การลักลอบนำเข้าโคมีชีวิตเพศผู้ 26 ตัว ขนย้ายด้วยรถยนต์บรรทุก ถ้าเทียบเป็นรถกระบะ ก็ใช้ประมาณ 6-7 คันรถนั้น เป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ แม้จะแค่ 1 ตัว ก็ถือว่าเป็นอันตราย ถ้าเป็นการนำเข้าโดยวิธีการผิดกฎหมาย ไม่ผ่านด่านศุลกากร รวมทั้งการตรวจคัดกรองโรคปากเท้าเปื่อย ซึ่งจะเป็นการแพร่ระบาดของโรค และสร้างความเสียหายให้กับเกษตรกร ทั้งการจำหน่ายโคในประเทศและการส่งออกโคในตลาดต่างประเทศ รวมไปถึงประชาชนผู้บริโภคเนื้อสัตว์

เรื่องนี้นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะกำกับดูแลกรมปศุสัตว์ ได้สั่งการให้นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ขันนอตทุกด่านตามตะเข็บชายแดนเพื่อป้องกันการทะลักเข้าโคมีชีวิต (โคเถื่อน) จากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย ยกระดับมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคระบาด และมีนโยบายในการเตรียมส่งออกโคมีชีวิต ผ่านการรับรองคุณภาพ “ปลอดโรคปลอดภัย” เพื่อสร้างหลักประกันและความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้า ว่า ประเทศไทยปราศจากโรคต่างๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคในการส่งออก เพื่อขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้นอีกด้วย