สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ว่า ข้อมูลจากกระทรวงกิจการพลเรือนของจีน ซึ่งเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เผยให้เห็นว่า จำนวนคู่บ่าวสาวชาวจีน เพิ่มขึ้นเป็น 7.68 ล้านคู่ในปีที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้น 845,000 คู่จากปี 2565 แต่ยังคงต่ำกว่าจำนวนสูงสุดที่ 13.47 ล้านคู่ ในปี 2556

ข้อมูลดังกล่าวปรากฏขึ้นหลังนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน ให้คำมั่นในเดือนนี้ว่า รัฐบาลปักกิ่งจะดำเนินการเพื่อสังคมที่เป็นมิตรต่อการเกิด และส่งเสริมการพัฒนาประชากรที่สมดุลในระยะยาว ตลอดจนลดค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตร การเลี้ยงดูบุตร และการศึกษา

อนึ่ง บรรดาผู้กำหนดนโยบายของจีน กำลังหาวิธีพลิกกลับจำนวนประชากรที่ลดลง อันเป็นผลจากอัตราเกิดที่ร่วงลง และสังคมที่มีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ชาวจีนประมาณ 300 ล้านคน หรือเทียบเท่าประชากรเกือบทั้งหมดของสหรัฐ จะเข้าสู่วัยเกษียณในอีก 10 ปีข้างหน้านี้

ทั้งนี้ อัตราการแต่งงานมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับอัตราการเกิด ซึ่งสิ่งนี้ช่วยสร้างกำลังให้กับผู้กำหนดนโยบาย เนื่องจากการสมรสที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้ชาวจีนมีบุตรเพิ่มขึ้น และช่วยบรรเทาปัญหาประชากรลดลงในปี 2567 ด้วย

อย่างไรก็ตาม คนหนุ่มสาวชาวจีนจำนวนมาก กลับเลือกที่จะอยู่เป็นโสด หรือเลื่อนการแต่งงานออกไป เพราะโอกาสในการทำงานที่ย่ำแย่, อัตราการว่างงานของเยาวชนที่สูงเป็นประวัติการณ์ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลพวงจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของประเทศ.

เครดิตภาพ : AFP