เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ รัฐบาลจัดพิธีส่งพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ สู่กรุงเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม Mr. Tashi Gyalson ประธานคณะมนตรีบริหาร LAHDC  Dr. B. R. Mani  อธิบดีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นิวเดลี  Dr. Baidya Nath Labh รองที่ปรึกษามหาวิทยาลัยสาญจี Mr. Nagesh Singh เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย พร้อมด้วยนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายสุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา และนายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่  ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ศาสนิกชน ร่วมพิธี

นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย โดยกระทรวงวัฒนธรรมอินเดีย สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ จากอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ให้ประชาชนสักการบูชา ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.-3 มี.ค. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และในส่วนภูมิภาค วันที่ 5-18 มี.ค. ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่, วัดมหาวนาราม จ.อุบลราชธานี และวัดมหาธาตุวชิรมงคล จ.กระบี่ มียอดรวมผู้เข้ากราบสักการะสูงถึงกว่า 4 ล้านคน โดยแยกเป็นที่กรุงเทพฯ จำนวน 2,085,360 คน เชียงใหม่ จำนวน 511,189 คน อุบลราชธานี จำนวน 810,374 คน และกระบี่ จำนวน 720,667 คน รวมทั้งสิ้น  4,127,590 คน

รมว.วธ. กล่าวต่อไปว่า ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร จิตอาสา 904 พระราชทาน หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่ร่วมกันดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ จากอินเดียมาในครั้งนี้ จะช่วยกระดับประเทศไทยให้เป็นสถานที่สำคัญในการจัดเทศกาลงานในมิติทางศาสนาที่สำคัญในระดับภูมิภาคและระดับโลก ตลอดจนเป็นการสร้างสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความร่วมมือด้วย