เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ น.ส.แป้ง และ สามี เดินทางมาพร้อมกับ ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ นำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่รวบรวมได้จากการถูกบรรดาเกรียนคีย์บอร์ด ตัดต่อรูป คอมเมนต์ด่าทอ และส่งข้อความมาข่มขู่คุกคาม กรณี น.ส.แป้ง ซึ่งเป็นกระแสเรื่องต่อผมกับร้านทำผมย่านนนทบุรี ก่อนไปออกรายการทีวีดังแห่งหนึ่งแล้วทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงมีการนำภาพเธอไปลงโพสต์ในเชิงลบต่างๆ มีการชี้เป้าเรื่องที่อยู่เธอจนถูกคุกคามถึงบ้านพัก ทำให้ต้องปรึกษาทนายและรวบรวมพยานหลักฐานมาแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยมี พ.ต.อ.ธนูเพ็ชร ฉมาฤกษ์ ผกก.สภ.คลองด่าน พร้อมด้วย ร.ต.ท.จตุรานนท์ โพธิ์แก้ว รอง สว.(สอบสวน) รับแจ้งความ

ชาวเน็ตแห่ชื่นชมช่างเสริมสวยที่มีสติ หลังลูกค้าโวยต่อผมแล้วผมร่วง

ทนายเกรียงศักดิ์ ระบุว่า กรณีน้องแป้ง ในส่วนของการพูดคุยเจรจากับทางเจ้าของร้านถือว่าเรื่องจบกันไปแล้ว แต่สำหรับเกรียนคีย์บอร์ดต่างๆ ที่ออกมาคอมเมนต์และส่งข้อความไปคุกคาม ด่าทอ และให้น้องแป้งเกิดความเสียหาย รวมถึงเพจต่างๆ ที่มีการนำรูปไปตัดต่อหรือทำให้เกิดความเสียหาย วันนี้ตนในฐานะของทนายความ จึงรวบรวมพยานหลักฐานมาแจ้งความเอาผิดกับบุคคลต่างๆ ซึ่งขณะนี้รวมแล้วกว่า 30 ราย การที่ต้องออกมาแจ้งความในครั้งนี้เพื่อปกป้องสิทธิของน้องแป้ง รวมถึงป้องปรามไม่ให้เกิดการทำตามในเรื่องของการแสดงความคิดเห็นในเชิงลบโดยไม่ทราบข้อเท็จจริง ซึ่งน้องแป้งเองหลังจากที่เป็นกระแสและถูกคุกคามทำให้น้องกลายเป็นโรคซึมเศร้า เครียด หนักสุดมีการออกมาระบุพิกัดที่อยู่และบ้านพักของน้องแป้ง จึงต้องมาแจ้งความร้องทุกข์เอาผิด ซึ่งตนยืนยันจะเอาผิดทุกรายที่หลักฐานถึงรวมถึงเพจต่างๆ

ขณะ น.ส.แป้ง ผู้เสียหายระบุว่าหลังจากที่ไปออกรายการกลับมาก็ถูกโจมตีหนักมากจนถึงขั้นไม่เป็นอันทำอะไร มีทั้งโทรฯ มาคุกคาม ข่มขู่ ส่งข้อความมาด่า หนักสุดมีการบอกที่อยู่ของตน จนต้องปิดร้านหนี ได้รับผลกระทบอย่างหนัก แม้กระทั่งลูกหรือคนรอบข้าง ยอมรับว่ารู้สึกแย่จนถึงขั้นแทบจะคิดสั้น แต่พอเห็นหน้าลูก และลูกเข้ามาให้กำลังใจบอกว่า หม่าม้าไม่เป็นไรนะ ยังมีลูกมีน้องที่อยู่ข้างๆ หากไม่มีเธอ ลูกก็จะไม่ได้เรียนต่อ ซึ่งน้องแป้งถึงขั้นร้องไห้ขณะที่ให้สัมภาษณ์นักข่าว

พ.ต.อ.ธนูเพ็ชร ฉมาฤกษ์ ผกก.สภ.คลองด่าน ระบุว่า ในส่วนของคดีในเรื่องนี้ก็จะให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วออกหมายเรียกบุคคลที่ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ หากพบความผิดก็ต้องดำเนินคดี ส่วนรายใดที่เป็นอวตารก็ต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเข้ามาช่วยเพื่อสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป