สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ว่านายเอดูอาร์โด อาโน ที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงแห่งชาติของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เหตุการณ์ปะทะเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ระหว่างเรือสนับสนุน “ยูไนซาห์ เมย์ โฟร์” หรือ “ยูเอ็มโฟร์” ของกองทัพฟิลิปปินส์ กับเรือตรวจการณ์ของหน่วยยามฝั่งจีน ใกล้กับแนวสันดอนโธมัสที่สอง บริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ ในทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ทหารฟิลิปปินส์ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย


ทั้งนี้ อาโนไม่ได้กล่าวอย่างละเอียดเกี่ยวกับอาการของทหารทั้งสามนาย แต่อ้างอิงตามข้อมูลของกองทัพฟิลิปปินส์ เรือของจีนขยับส่วนหัวให้เข้ามาชนกับเรือยูเอ็มโฟร์ และยังฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่เรือของฟิลิปปินส์ เพื่อขัดขวางการเดินทางและสร้างความเสียหายให้กับตัวเรือ ที่อยู่ระหว่างการนำเสบียงไปส่งให้แก่ทหารฟิลิปปินส์ ซึ่งประจำการอยู่ที่แนวสันดอนอยุนงิน


ขณะที่สำนักงานยามฝั่งจีนกล่าวว่า “ดำเนินการตามกฎหมาย” ต่อเรือของฟิลิปปินส์ ซึ่งรุกล้ำน่านน้ำบริเวณแนวสันดอนเหรินอ้าย ซึ่งเป็นชื่อที่จีนใช้เรียกแนวสันดอนอยุนงิน ด้านกระทรวงกลาโหมจีนออกแถลงการณ์ ขอให้ฟิลิปปินส์ “ยุติการเคลื่อนไหวอย่างยั่วยุ” และ “ท้าทาย” เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนไม่ลังเล ที่จะ “ใช้มาตรการเด็ดขาด” เพื่อปกป้องอธิปไตย สิทธิอันชอบธรรม และผลประโยชน์ทางทะเลของชาติ


อนึ่ง อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล (อันคลอส) ฉบับปี 2525 ระบุว่า แต่ละประเทศบนโลกมีอำนาจอธิปไตยเหนือทรัพยากรธรรมชาติ ที่อยู่ภายในอาณาเขตไม่เกิน 200 ไมล์ทะเล หรือ 370 กิโลเมตร จากชายฝั่ง ซึ่งหมู่เกาะสแปรตลีย์อยู่ห่างจากมณฑลไห่หนาน หรือเกาะไหหลำของจีน เป็นระยะทางเกือบ 1,000 กิโลเมตร.

เครดิตภาพ : AFP