เมื่อวันที่ 29 มี.ค. พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภาค 8 พร้อมตำรวจกองปราบ เดินทางไปที่บ้านของนางวันเพ็ญ อายุ 62 ปี หรือ เจ๊อ้วน ในอ.สวี จ.ชุมพร เพื่อเก็บหลักฐานสำคัญตามที่มีการสืบสวนพบว่าอาจเป็นจุดเกิดเหตุอุ้มฆ่า นายขนบ สมหวัง อายุ 56 ปี หรือ “โกหมาส” โดยที่บ้านหลังดังกล่าวอยู่ห่างจากสภ.นาสัก 5 กม. ได้พบกับ นางวันเพ็ญ นั่งอยู่ในบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นศาลจังหวัดหลังสวน โดยเจ๊อ้วนให้ความร่วมมือดีด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดยมี นายสำราญ สมหวัง พี่ชาย “โกหมาส” อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปตรวจเก็บหลักฐานภายในบ้าน เช่น ผ้าห่ม เสื้อผ้า และคราบต่างๆ ภายในห้อนนอน ห้องน้ำ บางจุดเจ้าหน้าที่ได้นำตัว “เจ๊อ้วน” ไปยืนดูการตรวจเก็บหลักฐานด้วย โดยมีหลักฐานสำคัญได้แก่ ม้วนสก๊อตเทปสีน้ำตาล ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับที่ใช้ห่อพันศีรษะและใบหน้า “โกหมาส” โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจเก็บหลักฐานนานประมาณ 1 ชั่วโมง

ศาลเตรียมออกหมายจับแก๊งอุ้มฆ่าฝังดิน ‘โกหมาส’ ตำรวจมุ่งปมชู้สาว

จากนั้นได้เชิญตัว นางวันเพ็ญ ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ห้องปฏิบัติการสืบสวน สภ.นาสัก โดยมี พ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร เป็นผู้สอบปากคำ สำหรับการออกหมายค้นในครั้งนี้ สืบเนื่องจากช่วงบ่าย วันที่ 28 มี.ค. นายสมชัย อายุ 62 ปี เพื่อนสนิทของ “โกหมาส” หนึ่งในผู้ต้องสงสัยตัวหลัก ได้เดินทางมาพร้อมเพื่อนชาย 2 คน เพื่อมาพบกับ พ.ต.อ.จิโรจน์ สาธุการ ผกก.สอบสวน ภ.จว.ชุมพร พ.ต.ท.สมชาย บุญเกิด สว.(สอบสวน) เจ้าของคดีที่ สภ.นาสัก เพื่อให้ปากคำ และรับสารภาพว่า ตนเองไม่ได้ฆ่า “โกหมาส” แต่วันเกิดเหตุ “เจ๊อ้วน” ได้โทรเรียกตนไปหาที่บ้าน และพบว่า “เจ๊อ้วน” ได้ให้ลูกน้องจับ “โกหมาส” มัดรอไว้แล้ว และให้พรรคพวกตนอุ้มพาใส่รถฆ่าฝังดินที่จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ์ จึงรีบเดินทางมาตรวจเก็บหลักฐานที่บ้านจุดเกิดเหตุดังกล่าว พร้อมกับนำตัว “เจ๊อ้วน” ไปสอบปากคำเพิ่มเติม

พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ขออนุมัติหมายค้นบ้านหลังนี้คือของเสี่ยหมาส และเป็นบ้านพักอาศัยของป้าอ้วน ในช่วงที่เราเชื่อว่าเป็นจุดเกิดเหตุคดีอุ้มฆ่า การประทุษร้ายและเอาตัวไปจากสถานที่แห่งนี้ วันนี้ก็มาเก็บพยานหลักฐาน พวกวัตถุพยานเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกับศพที่เราพบ เรื่องศพทางญาติเขาค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นศพของเสี่ยหมาส แต่ในทางคดีจะต้องรอผลตรวจทางดีเอ็นเอ หรืออัตลักษณ์ พวกลายนิ้วมือ เพื่อให้ชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่ผิดพลาด แต่ดูจากรูปคดีแล้วก็น่าเชื่อว่าไม่น่าจะผิด เราสืบสวนมาจนทราบว่าที่นี่คือสถานที่เกิดเหตุ ในเรื่องของการอุ้มฆ่า เชื่อว่าถูกประทุษร้ายที่นี่ แล้วถูกพาตัวไปฝังที่เราพบศพ ที่บางขัน ทุกอย่างเป็นเรื่องการสืบสวนที่อยู่ในสำนวนแล้ว ผู้เกี่ยวข้องมีหลายคน ยังเปิดเผยไม่ได้