สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ว่า กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ “พร้อมมอบความสนับสนุนทางการเงิน และจัดการเจรจาหารืออย่างต่อเนื่องกับศรีลังกา” และร่วมกับผู้ให้กู้ยืมรายอื่น ขณะเดียวกัน จีนจะร่วมแสดงบทบาทอย่างสร้างสรรค์ ตามแนวทางของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่ศรีลังกา
ปัจจุบัน จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของศรีลังกา “ในระดับรัฐต่อรัฐ ” ด้วยสัดส่วน 10% ของหนี้สาธารณะทั้งหมดที่ศรีลังกามีอยู่
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีนเกิดขึ้น หลังนายทิเนศ คุณวรรเทนะ นายกรัฐมนตรีศรีลังกา เยือนกรุงปักกิ่งในสัปดาห์นี้ และกล่าวว่า จีนจะ “มอบความสนับสนุน” ด้านการปรับโครงสร้างหนี้ให้แก่ศรีลังกา และกล่าวถึงการที่จีน “เสนอความช่วยเหลือด้านการพัฒนา” ให้แก่ท่าอากาศยานนานาชาติโคลัมโบ และท่าเรือน้ำลึกฮัมบันโตตา แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด
China proposes to extend its assistance in the development of Hambantota port and the Bandaranaike International Airport, and the Colombo Port City as all the major development projects halted following Sri Lanka’s sovereign debt default in April 2022.
— BRISL (@BRI_SL) March 27, 2024
The Prime Minister met… pic.twitter.com/g6kOphMfHJ
ก่อนหน้านั้น ญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญ กับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติโคลัมโบ แต่ระงับไปนับตั้งแต่ศรีลังกาผิดนัดการชำระหนี้สาธารณะ ขณะที่รัฐวิสาหกิจของจีนได้รับสัมปทานเป็นเวลา 99 ปี มูลค่า 1,120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 40,849.76 ล้านบาท) ตั้งแต่ปี 2560 เพื่อใช้งานท่าเรือน้ำลึกฮัมบันโตตา ท่ามกลางการจับตาอย่างใกล้ชิดของอินเดีย
อนึ่ง รายงานหลายกระแสระบุว่า แนวทางของจีนอาจไม่ใช่การลดหนี้ แล้วให้ศรีลังกาจ่ายทั้งหมดในคราวเดียว แต่อาจเป็นการขยายระยะเวลาการชำระ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ย.
เครดิตภาพ : AFP