จากกรณี สถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมา กับฝ่ายต่อต้านที่มีทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) และกองกำลังปกป้องประชาชน (พีดีเอฟ) เข้ายึดกองบังคับการยุทธวิธี ของทหารเมียนมาที่บ้านปางกาน จ.เมียวดี ตรงข้าม ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก โดยการเข้ายึดฐานที่บ้านปางกาน บก.ยุทธิวิธี ของกองกำลังชนกลุ่มน้อยติดอาวุธ กลุ่มต่อต้าน ส่งผลให้ข้าราชการในสังกัดสภาบริหารทหารเมียนมา ในเขตพื้นที่เมียวดี เช่น นายทหารระดับ ผบ.พล. 275 นายทหาร ที่บังคับการอยู่ในกองบัญชาการ 275 เมียวดี พร้อมเจ้าหน้าที่ระดับสูงในจังหวัด อาทิ ศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จังหวัดเมียวดี ราว 20 คน ต้องถูกนำตัวออกหนีจากตัวเมียวดี และถูกนำไปถูกอพยพไปบ้านส่วยโก๊กโก๋ ในเขตปกครองของพันเอกหม่องชิตู ผบ.กลุ่ม บีจีเอฟ หรือ เคเอไอ ตรงข้ามบ้านวังผา อ.แม่ระมาด จ.ตาก

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (7 เม.ย. 67) มีแหล่งข่าวแจ้งว่า รัฐบาลเมียนมาได้ใช้ช่องทางกระทรวงการต่างประเทศ ประสานมายังรัฐบาลไทย ขอให้เครื่องบินทหารเมียนมา ATR72-600 ทำการลงจอดที่ ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อขอลี้ภัยให้กับ 20 ข้าราชการระดับสูง พร้อมสัมภาระบางส่วน ทั้งหมดได้มารอที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา เพื่อเข้ามาฝั่งไทย ซึ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างลับ ๆ ห้ามสื่อมวลชนทำข่าวหรือบันทึกภาพ

จากนั้นเวลา 20.20 น. เครื่องบินเมียนมาลงจอดที่สนามบินนานาชาติแม่สอด โดยมีการจอดรอผู้โดยสารราว 1 ชั่วโมง พบว่าเป็นรถกระบะขนสิ่งของและมีผู้โดยสารราว 20 คน ไปกับเครื่องชุดนี้ ส่วนสัมภาะนั้น ทราบจากแหล่งข่าวว่าเป็นเงินสกุลดอลลาร์ของธนาคารที่มีสาขาในเมียวดี มีการขนขึ้นเครื่องที่แม่สอดด้วย ก่อนที่เครื่องจะมุ่งหน้าไปกรุงเนปิดอว์ในเวลา 24.43 น.

แหล่งข่าวแจ้งด้วยว่า กองกำลังติดอาวุธฝ่ายต่อต้าน รวมกำลังกว่า 400-500 นาย เตรียมบุกพื้นที่กองพันที่ 275 เมียวดี ซึ่งเป็นค่ายทหารที่ใหญ่ที่สุด อยู่ในตัวเมืองเมียวดี ซึ่งเป็นฐานที่มั่นที่สุดท้ายที่เหลืออยู่ ทำให้ล่าสุดฝ่ายต่อต้านควบคุมพื้นที่ จ.เมียวดี ไปแล้วราว 80 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญข่าวดังกล่าว ส่งผลทำให้ราษฎรเมียนมาในพื้นที่เมียวดีเตรียมเก็บทรัพย์สิน เตรียมการอพยพออกจากบ้านตัวเอง มุ่งสู่ชายแดนไทย เพื่อลี้ภัยเพื่อความปลอดภัย โดยบรรยากาศที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ชายแดนแม่สอด มีชาวเมียนมาข้ามแดนมาฝั่งไทยเพิ่มมากขึ้น.