เมื่อวันที่ 8 เม.ย. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย เปิดเผยถึงกรณีสารเคมีรั่วไหลลงแม่น้ำโขง ว่า ตนได้รับรายงานถึงกรณีที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกสารเคมีพลิกคว่ำ ทำให้มีกรดซัลฟิวริกหรือกรดกำมะถันรั่วไหลเข้าสู่แม่น้ำคานที่เป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง ก่อนจะไหลผ่านเมืองหลวงพระบาง ไปถึงเขื่อนไซยะบุรีแล้วไหลผ่านไปยังพรมแดนไทย-ลาว โดยระยะห่างจากจุดที่เกิดเหตุมาถึง อ.เชียงคาน จ.เลย มีระยะทางประมาณ 340 กิโลเมตร ทั้งนี้ ตนกำชับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ให้ติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด เพราะมีความห่วงใยประชาชนของทั้ง 2 ประเทศที่อยู่ริมแม่น้ำโขง ซึ่งอาจได้รับผลกระทบ ขณะที่ สทนช.ในฐานะสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ได้เร่งประสานงานกับสำนักเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงและสปป.ลาว ตามแนวทางปฏิบัติด้านเทคนิคของระเบียบปฏิบัติเรื่องคุณภาพน้ำ

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สทนช.ได้ประสานงานกรมควบคุมมลพิษ เพื่อติดตามความรุนแรงของสถานการณ์และคุณภาพน้ำ โดยผลจากการตรวจวัดค่าคุณภาพน้ำ และความเป็นกรด-ด่าง พบว่าปัจจุบันได้ค่าเท่ากับ 8 ถือว่าคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ สัตว์น้ำและคนสามารถใช้น้ำได้โดยปลอดภัย แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังร่วมปฏิบัติตามแผนดำเนินการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำใน อ.เชียงคาน และ อ.ปากชม จ.เลย อย่างเคร่งครัด โดยเฝ้าระวังคุณภาพน้ำจำนวน 3 จุด ในเวลา 09.00 น. และ 15.00 น. ตั้งแต่วันที่ 5-12 เม.ย. 2567 แม้ขณะนี้แม่น้ำโขงบริเวณ จ.เลย ยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่ยังมีการติดตามเฝ้าระวังและแจ้งให้ประชาชนทราบจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่สภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม ขอย้ำประชาชนใน จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดด้วย