จากกรณี ร้อยเวร สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ใช้เท้าถีบช่วยชีวิตผู้ต้องหากลางห้องสอบสวน ขณะที่ทำการสอบสวน หลังผู้ต้องหาคว้าขวดเครื่องดื่มชูกำลังไปทุบจนแตก ก่อนนำมาปาดคอตัวเองตนเองจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดช่วงบ่ายวันที่ 7 เม.ย. นั้น
ร้อยเวรเท้าไว! ถีบช่วยชีวิตผู้ต้องหาใช้เศษแก้วจะแทงคอตัวเอง หวังให้เจ้าทุกข์ใจอ่อน
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ร.ต.อ.ธนาวุฒิ ดวงจินดา รอง สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงเหนือ ผู้ใช้เท้าถีบผู้ต้องหาเพื่อช่วยชีวิต เปิดเผยว่า ตอนนั้นตนก็กำลังสอบปากคำผู้ต้องหาตามปกติ ถามข้อมูลชื่อและเรื่องของกลาง ตอนนั้นตัวผู้ต้องหาก็ไม่ได้มีท่าทางเครียดแต่อย่างใด ตอนแรกที่เห็นทางผู้ต้องหาคว้าขวด คิดว่าเขาจะเอามาทำร้ายตัวเองด้วยซ้ำ เลยลุกขึ้น เพราะตอนนั้นเขาก็ถือขวดที่ทุบแตกแล้วหันมาทางตนด้วย แต่เขากลับเอาไปทำร้ายตัวเอง จึงตัดสินใจใช้เท้าถีบออกไป เพราะคิดว่ามีรองเท้าแก้วก็คงไม่สามารถที่จะบาดตนได้ และด้านหลังก็มีเก้าอี้รองรับอยู่ ตัวผู้ต้องหาเองล้มลงไป ก็คงไม่เป็นอันตรายอะไร
“พอเกิดเหตุการณ์ขึ้น ผมก็ต้องทำตามหน้าที่ ช่วยเหลือผู้ต้องหาเอาไว้ แต่มันไม่มีวิธีอื่นแล้ว ก็ต้องขอโทษด้วยที่ต้องใช้เท้า ผมเป็นตำรวจ ต้องคิดและระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะเราไม่รู้ว่าผู้ต้องหาคิดจะทำไรบ้าง” ร.ต.อ.ธนาวุฒิ กล่าว
พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.สำโรงเหนือ กล่าวว่า ผู้ต้องหาคนนี้ ทางเจ้าหน้าที่เคยจับมาหลายคดีแล้ว ส่วนครั้งนี้ได้รับแจ้งว่าผู้ต้องเข้าไปขโมยพระเครื่อง ขณะกำลังขโมยแล้วเดินออกมา ก็เจอกับเจ้าของบ้านที่กลับมาจากข้างนอกพอดี ก็เลยเรียกชาวบ้านมาช่วยกันจับ ผู้ต้องหาคนดังกล่าว มีอีกคดีที่ไปงัดห้องอยู่ที่ซอยแบริ่ง 56 อีกหนึ่งคดี ซึ่งร้อยเวรกำลังจะขอออกหมายจับ ก็เลยมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มไป วันนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาเข้าห้องขังแล้ว ร้อยเวรก็เบิกตัวออกมาอีก เพื่อที่จะให้เซ็นคำให้การเพิ่มเติม ขณะกำลังนั่ง ตรงโต๊ะร้อยเวรจะมีกระป๋องกาแฟกับขวดเครื่องดื่ม ซึ่งก็ยังไม่ถูกเปิด เพราะประชาชนมาใช้บริการค่อนข้างเยอะ ปรากฏว่าเขาใช้มือที่ถูกล็อกกุญแจจากด้านหน้า คว้าเอาขวดแล้วก็ก้มลงไปเอาขวดทุบกับพื้นให้ขวดแตก ก่อนนำมาทำร้ายตัวเอง ร้อยเวรเห็นดังนั้นจึงรีบลุกขึ้นตามภาพข่าว แล้วก็ช่วยเอาไว้ได้ มีบาดแผลนิดหน่อย แต่ที่เห็นว่าที่คอมีจุก คือเขาไปเจาะหลอดลมรักษาตัวก่อนหน้านี้ เป็นโรคเดิมของเขาอยู่แล้ว
ผกก.สภ.สำโรงเหนือ กล่าวอีกว่า ส่วนพฤติกรรมของผู้ต้องหา ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ จากการสอบถามตัวมารดาและญาติๆ ดูแล้ว ก็ได้ความว่า ผู้ต้องหาเป็นคนที่มีนิสัยชอบลักขโมย เพราะเคยมีคดีแบบนี้ แล้วเข้าออกเรือนจำมาแล้วหลายครั้ง ครั้งก่อนที่เคยเอาตัวมา ผู้ต้องหาก็ขอตัวเข้าห้องน้ำแล้วก็มีพฤติกรรมแบบนี้ เหมือนกับว่าเรียกร้องความเห็นใจจากผู้เสียหาย โดยการดื่มน้ำยาล้างห้องน้ำ แต่ครั้งนี้ ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้เสียหายก็รู้ทันเขาแล้ว จึงไม่ยอม เคยเช็กไปที่โรงพักอื่น เขาก็มีพฤติกรรมแบบนี้ จนผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ เพราะส่วนหนึ่งตอนที่จับได้ พวกของกลางผู้ต้องหายังไม่ได้เอาไปเหมือนกับคดีที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งญาติไปแล้วว่ายังไงก็ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนอาการของคนเจ็บ ไม่ได้เป็นอะไรเลย เป็นแค่รอยถลอกเล็กน้อย ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณร้อยเวรที่มีความรวดเร็วในการป้องกันตัวของผู้ต้องหา ไม่ให้เกิดอะไรขึ้นมากไปกว่านี้.