สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวของชายนิรนามวัย 40 ปีจากแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี ที่ลงทุนจ่ายเงินถึง 5,000 ยูโร (ราว 197,365 บาท) เพื่อทำศัลยกรรมขยายขนาดเจ้าโลกของตัวเอง แต่ปรากฏว่าหลังจากผ่าตัดไปได้ 1 เดือน เขาก็โทรศัพท์มาต่อว่าศัลยแพทย์ เนื่องจากพบความผิดปกติของอวัยวะสำคัญ
แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ “มหากาพย์แห่งความเจ็บปวด” ของคนไข้หนุ่มใหญ่ เมื่อเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขอาการอีก 12 ครั้ง
ข้อมูลในเอกสารการฟ้องร้องระบุว่า คนไข้รายนี้เข้ารับการทำศัลยกรรมฉีดไขมันเข้าสู่อวัยวะ 2 ครั้ง โดยเป็นการนำไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายของเขา มาฉีดเข้าไปที่อวัยวะเพศ เพื่อให้มีขนาดใหญ่ขึ้น แต่โชคไม่ดีที่การผ่าตัดได้ทำให้เกิดผลข้างเคียง อวัยวะเพศไม่ได้ใหญ่ขึ้น และมีรูปลักษณ์ไม่ตรงตามที่เขาคาดหวัง
สื่อท้องถิ่นของอิตาลีรายงานว่า คนไข้ชายรายนี้ กลับไปผ่าตัดแก้ไขความเสียหายของอวัยวะสำคัญอีกหลายครั้ง แต่ยิ่งผ่าตัดก็ยิ่งแย่ลง นอกจากนี้ หลังจากที่มีการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ ก็พบว่ามีการนำซิลิโคนซึ่งโดนแบนในอิตาลีใส่เข้าไปในเจ้าโลกของเขาด้วย
หลังจากที่ผ่านการผ่าตัดเพื่อแก้ไขไปทั้งหมด 12 ครั้ง อวัยวะเพศของคนไข้สุดซวยก็ผิดรูปไปอย่างสิ้นเชิง และไม่สามารถใช้ประกอบกิจกรรมทางเพศได้ ทางคลินิกได้ขอให้ชายหนุ่มเข้าไปผ่าตัดเพื่อแก้ไขรอบใหม่ ซึ่งทำให้เขาตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาล โดยมีชื่อของศัลยแพทย์และคลินิกที่ให้บริการเป็นจำเลย
ศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดแก้ต่างในศาลว่า ในตอนแรก คนไข้รายนี้ก็พึงพอใจกับผลที่ได้จากการผ่าตัด ทั้งยังส่งคลิปวิดีโอมาให้เขาดูเพื่อเป็นหลักฐาน นอกจากนี้ คนไข้ยังได้เซ็นชื่อในเอกสารยินยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนเข้ารับการผ่าตัดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ศาลประจำเมืองปิสโตยาไม่ยอมรับข้ออ้างของนายแพทย์ผู้เป็นจำเลย และตัดสินว่าคนไข้ไม่อาจตระหนักรู้ได้ว่าความเสี่ยงในการผ่าตัดของเขาคืออะไร และเสริมว่า ความพอใจของคนไข้ที่มีต่อผลลัพธ์หลังการผ่าตัดนั้น ไม่อาจใช้เป็นข้ออ้างในการแก้ต่างได้ เพราะ “การประเมินผลสำเร็จของการผ่าตัด ต้องเป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น”
คลินิกทั้ง 2 แห่งที่ตกที่นั่งจำเลยในคดีนี้ ก็พยายามจะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ โดยอ้างว่าทางคลินิกเพียงแค่ “ให้ยืม” สถานที่เพื่อทำการผ่าตัด แต่ศาลได้ตัดสินว่า พวกเขาต่างได้รับผลประโยชน์จากการทำงานของศัลยแพทย์รายนี้ด้วย จึงต้องรับผิดชอบร่วมกัน
จำเลยทั้งหมดร่วมกันจ่ายค่าเสียหายให้โจกท์ โดยศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัดต้องจ่ายเงิน 60% ส่วนคลินิกทั้ง 2 แห่ง ให้จ่ายแห่งละ 20%
ในตอนแรก ฝ่ายโจทก์เรียกร้องเงินชดเชยความเสียหายที่ 153,000 ยูโร หรือมากกว่า 6 ล้านบาท แต่สุดท้าย ฝ่ายโจทก์ก็ได้ไปเพียง 110,000 ยูโร หรือประมาณ 4.3 ล้านบาท เนื่องจากศาลเห็นว่า ฝ่ายโจทก์ก็ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวเองด้วย โดยคิดเป็นสัดส่วนราว 30% หลังจากที่เขายอมรับว่า ได้ฉีดสารบางอย่างที่เขาอ้างว่าศัลยแพทย์เป็นคนสั่งให้ เข้าไปในอวัยวะเพศของตน ซึ่งมีส่วนทำให้อวัยวะเพศของเขาผิดรูปและไม่สามารถแข็งตัวได้
ที่มา : odditycentral.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES