จากกรณีโลกออนไลน์ได้แชร์เรื่องราวของ พระมหาหนุ่ม วัย 24 ปี พระลูกวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ ที่ไปแอบเสพเมถุน มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี นักการเมืองหญิง สังกัดพรรคดัง และเป็นแม่บุญธรรมของตัวเอง ขณะที่ฝ่าย นายบี (นามสมมุติ) สามีของ นางเอ และเป็นพ่อบุญธรรมของพระ จับได้แบบคาหนังคาเขา ช่วงที่พระมหากำลังนอนเปลือยกายอยู่กับ นางเอ บนเตียงนอน จึงได้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ภายหลัง นางเอ พยายามแก้ตัวให้ฝ่ายพระว่า ลูกบุญธรรมมานอนค้างที่บ้าน แล้วเข้ามาคุยกันในห้องก่อนจะเข้าไปอาบน้ำเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรกันแต่อย่างใด ต่อมา พรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงถึงประเด็นฉาวดังกล่าว โดยเบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมการสอบ 3 วัน หากพบมีความผิดก็จะขับพ้นสมาชิกพรรค เหตุทำผิดศีลธรรม นั้น

เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี สอบถามพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า โบราณเขาเรียกว่า “ผีเน่ากับโลงผุ” ซึ่งมันจะไปด้วยกันได้ แต่เรื่องนี้ทางฝ่ายหญิงเป็นนักการเมืองที่ลงสมัครเพื่อแก้ไขปัญหาบ้านเมืองกับประชาชน แต่กลับกลายเป็นว่ามาแก้ผ้าเองซะงั้น คิดว่าพรรคคงไม่เอาให้อยู่ในพรรคแล้วตอนนี้ เป็นนักการเมืองตามหลักแล้วควรจะวางตัว ประพฤติตัวให้ดีให้คนที่มอบคะแนนให้ไม่ผิดหวัง 

ส่วนทางด้านพระก็เหลือเชื่อเนื่องจากบวชเป็นมหาเปรียญก็ยังจะเวียนไปหากัน ซึ่งตามหลักพระพุทธเจ้าถือว่าการรักษาบริสุทธิ์ในเพศ บรรพชิตและบรรพชา ถ้ารักษาไม่ได้ก็ต้องไป ในกรณีนี้หลังจากรู้ว่าทำผิดแล้วก็รีบไปทันที ไม่ดื้อด้านดันทุรังอยู่ ในเรื่องนี้หลักฐานชัดเจนไม่ควรมานั่งแก้ตัวเพราะยิ่งดิ้นก็จะยิ่งจม ให้รับสารภาพผิดไปจะได้จบ แต่ตอนนี้ก็ยังเห็นมีการบ่ายเบี่ยงแก้ตัว และอยากฝากถึงพระรูปดังกล่าวว่าอย่ากลับมาบวชใหม่อีก ไปแล้วก็ไปเลย บวชไม่สืบทอดพระศาสนา แต่กลับไปสืบพันธุ์แทน หากพระสงฆ์น้องๆ ที่ยังอยู่ก็ขอฝากไว้ว่าให้เว้นระยะห่าง อย่าใกล้ชิดกับสีกาจนเกินงามให้ดูกรณีนี้เป็นตัวอย่าง