ถูกสนใจหนักมากสำหรับ “ปั๊บ โปเตโต้” นักร้องดังที่ออกร่วมพูดคุยในรายการ WOODY FM โดยเล่าจากศิลปินสู่การรับบทบาท พระดล ในซีรีส์สาธุ หลังจากที่เปิดตัวก็เป็นกระแสฮือฮา มีมีมเป็นไวรัลสนั่นโซเชียล พร้อมสปอยล์ตัวละครที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน ความรักที่คิดไปเองกับโยมเดียร์ และเรื่องโปเตโต้ดังตั้งแต่ แอลลี่ ยังไม่เกิด และลิ้นชักในอดีตของชีวิตที่ไม่ค่อยได้จัดสรร ตอบชัดแต่งงานมา 4 ปีแล้ว เมื่อไหร่จะมีทายาทอีกด้วย

ปั๊บ เผยว่า “ผมถ่ายหนังสาธุมา เกือบ 2 ปี ปีครึ่งประมาณนี้ครับ ปี 2022 ด้วยความที่พระดลเขาอยู่กับตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เพราะเขาบวชตั้งแต่เด็ก บวชจนเป็นพระวัดป่า เขาก็อยู่ในศีลธรรม ในข้อปฏิบัติสไตล์ของเขา ผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องไม่รู้สึกกับอะไรเยอะเกินไป แม้กระทั่งกับตัวเอง รู้สึกก็ต้องตัดทิ้ง หรือว่ารู้สึกกับสีกาก็ต้องตัดทิ้งไม่ให้อารมณ์มันไปเกิดเป็นความคิดก่อเป็นอะไรที่มันเลยเถิด ผมว่ามันเริ่มจากตรงนั้น เพราะฉะนั้นเวลาที่เขาอยู่กับบท อยู่กับตัวนักแสดงคนอื่น เหมือนมันแค่รับรู้ความรู้สึกจากเขาได้เนืองๆ แต่ว่ามันไม่ได้โต้กลับไป เหมือนเราแค่กรองแล้วก็อยู่กับตัวเองมากกว่า แต่เรารู้สึกถึงคนอื่นตลอดเวลาที่เขาส่งหาเรา แต่ด้วยความที่คาแรกเตอร์เป็นพระ ก็อาจจะไม่ได้แบบคุยอะไรกัน มันใช้ทางความรู้สึกเอาเลยแค่จะออกทางตาซะส่วนใหญ่ ตามากไปก็ไม่ได้เพราะว่ามันก็ต้องสงบทุกอย่างในร่างกายของเรา แค่จะมีช่วงจังหวะท้ายๆ หน่อยที่รับความรู้สึกจากเขาได้ เพราะสุดท้ายแล้วเราปรุงแต่งไปเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการไปหลงรักสีกา หลังรักน้องเดียร์ ไม่ได้เกิดจากการที่เดียร์เขาทำอะไร แต่เราเองที่ปรุงแต่งความรู้สึกขึ้นมา ก็เลยทำให้เราคิดไปเองทุกอย่าง เหมือนการที่เราบอกประโยครักออกไป จริงๆ มันบอกให้ตัวเองได้ยินมากกว่า เหมือนเราได้เอาออกไปแล้วจริงๆ แต่ว่าสิ่งที่โดนตีกลับมาคือความรู้สึกแบบหยึยอ่ะ นี่คือสิ่งที่เขาส่งมาหาผม ผมว่าถ้าในความรู้สึกมันก็ประมาณนั้นครับ ตรรกะของพระดลคือการที่เขากลับมาวัดบ้าน ตอนแรกก่อนที่เขาจะกลับมาเขายังเป็นพระวัดป่าอยู่ การที่เขากลับมาวัดบ้าน แล้วขอเปลี่ยนนิกายเป็นพระวัดบ้าน แสดงว่าใจตอนนั้นผมว่าเขาไม่รู้ดีเทลลงไปว่ารู้สึกยังไง แต่เขารู้สึกสนใจและอยากจะส่งเสริมเด็กกลุ่มนี้อยู่ แล้วเขากลับมาด้วยเจตนาที่เขาอยากจะช่วยวัดนี้อีกครั้ง ไม่รู้ว่าทำไมอยากช่วยเหมือนกัน รู้สึกผูกพัน ถึงแม้ว่าสิ่งที่เขาปฏิเสธมาตลอดในการทำเวทมนตร์คุณไสยเป็นสิ่งที่มันไม่ใช่ แต่ในขณะเดียวกันถ้ามันเป็นสิ่งที่ต้องช่วยเหลือคนกลุ่มหนึ่งเขาก็ทำ มันก็เลยเหมือนเป็นจังหวะที่ว่าไป ซึ่งจริงๆ เขาไม่รู้ตัวว่าหลงรักเดียร์อยู่ตอนนั้น แต่แค่ให้ความสนใจแต่ไม่รู้ตัว แค่รู้สึกว่าอยากจะทำเขาก็จะทำเลย”

“ผมเห็นมีมในโซเชียลด้วยครับ (ยิ้ม) ผมว่าอันแรกนะที่มันทัชเราก็คือ ผมไม่รู้ว่ามาจากสื่อไหน บวชปุ๊บเป็นพระปั๊บ อันนี้ผมว่ามันชัดเจน ที่คนแซวว่าผมดังตอนแอลลี่ยังไม่เกิด มันก็ไม่ได้มายด์ แต่ผมว่ามันก็แปลกดี เพราะเอาจริงมันก็เป็นเรื่องที่เราคุยกันในแวดวงกันเองก่อนที่มันจะทำงาน เวลาไปนั่งฟัง เจมส์กับพีท เขาก็นั่งคุยกันว่าเขาห่างกับแอลลี่ตั้งเยอะ เราก็นั่งเท้าคางแล้วกูล่ะ แล้วเขาหันมาแล้วก็หัวเราะ (หัวเราะ) ไม่ซีเรียสครับ น้องแอลลี่น่ารักมากครับแล้วเขาก็ตั้งใจทำงานมาก ทุกคนตั้งใจทำงานเป็นบรรยากาศที่ผมมีความสุขมาก ลิ้นชักในอดีตของผม  แต่ผมรู้สึกว่าจริงๆ แล้วพวกเราไม่เคยลืมอะไรหรอก สมองมันเมมโมรี่ทุกอย่างไว้หมดแล้ว คำว่าลืมมันเป็นแค่เรานึกไม่ออก แต่จริงๆ มันถึงฝังลงไปอยู่กับตัวเราอยู่แล้ว ยิ่งช่วงเวลาที่เรานิ่งหรือสงบกับตัวเองมากๆ บางทีมันก็จะมีเรื่องบางเรื่องที่เราจำได้ว่ามันมีแบบนี้ ลิ้นชักที่ผมหมายถึง ว่าบางเรื่องสมองเราอาจจะไม่ได้ตั้งใจแต่มันถูกเก็บเข้าไปแล้ว บางเก๊ะอาจจะเป็นระเบียบ บางเก๊ะก็อาจจะไม่ได้เป็นระเบียบ เปิดออกมาดูแล้วรู้สึกว่ามันสกปรกมากเลย ทำไมมีลิ้นชักที่มีความรู้สึกแบบนี้อยู่เยอะจัง ด้วยความที่เราใช้ชีวิตผมไม่ได้เป็นคนที่มีระบบไม่ได้เซตอัพตัวเองว่า ตื่นขึ้นมากี่โมงมีระบบทำอะไร ต้องทำอะไร ใช้ชีวิตตามสัญชาตญาณ เพราะฉะนั้นหลายความรู้สึกที่บางทีเหมือนมันผ่านไปแล้ว กลับมาดูอีกทีมันก็เละเหมือนกันนะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ ทั้งกับเพื่อน กับความรู้สึกตัวเองที่ไม่ได้เข้าไปจัดการ พอช่วงเวลาหนึ่งที่โดนถามคำถามก็เหมือนย้อนกลับไปเห็น”

ปั๊บ เล่าต่อว่า “เรื่องแต่งงานและลูก เกือบ 4 ปี แล้วครับ ไม่ได้ไปกำหนดกฎเกณฑ์เลยครับ ไม่ได้วางแผน มาก็มา ไม่มาก็ไม่เป็นไร ไม่มีเลยก็ไม่เป็นไร ตอนนี้ก็แฮปปี้ดี แต่ก็มีบางจังหวะเหมือนกันที่เด็กก็น่ารักดีนะ อะไรแบบนี้ ไม่ได้ไปแบบขีดเส้นขนาดนั้น เรื่องเพจผมใบ้หวย ผมไม่รู้เหมือนกัน ด้วยความที่แอดมินเป็นคนมีความรู้เยอะ เป็นคนสนุก คือคุยกับแอดมินและคุยกับทุกคนว่าเราอยากให้เพจโปเตโต้ นานแล้วนะครับก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ ว่าอยากให้เขามีชีวิตเป็นมนุษย์คนหนึ่งจริงๆ มากกว่าที่จะเป็นเพจเฉยๆ คอยโปรโมตงานเฉยๆ แล้วคนที่เล่นเขาก็สนุกและมีความรักในการที่เขาได้ติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตัวเขาเองเป็นคนที่มีความรู้เยอะ เรื่องเกม เรื่องกีฬา เรื่องแฟชั่น และหลายๆ เรื่อง เราไม่รู้ว่าตกกระไดพลอยโจนยังไงมาเจอเรื่องเลขผมก็ไม่เข้าใจ ตอนแรกก็ยังงงๆ ผมมารู้ทีหลังด้วยนะ เพราะว่ามีคนมาบอกว่าเขาสนุกกันกับเรื่องแบบนี้ ก็มองเป็นเรื่องสนุกดีกว่าครับ เรียกว่าเฮฮาขำขัน”