เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 เม.ย. ที่ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) กล่าวถึงเทศกาลสงกรานต์ในวันแรก ที่ทุกพื้นที่มีการเปิดให้เล่นน้ำเมื่อวานนี้ ว่า ในภาพรวมด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวทั่วประเทศ เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ส่วนภาพรวมการติดตามสถานการณ์อุบัติเหตุและการจราจร ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น โดยสามวันแรก ระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย. 67 มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตของเทศกาลสงกรานต์ ลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นเพราะการเข้มงวดของการบังคับใช้กฎหมาย และประชาชนให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมาย เพิ่มวินัยจราจร

ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่ การบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก และขอพี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือ กรณีที่เจ้าหน้าที่มีการตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์หรือตรวจความเร็วของรถ ซึ่งเน้นย้ำว่า ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับขี่รถโดยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้ว จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและดำเนินคดีอย่างเข้มงวด โดยการมีวินัยจราจรและปฏิบัติตามกฎหมาย จะช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตได้

พล.ต.ท.กรไชย กล่าวว่า ได้กำชับในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน เนื่องจากพบว่าบางจุดที่มีการเล่นน้ำ ใกล้กับรถที่ขับผ่านมากเกินไป เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นควรต้องดำเนินการทำแนวเขตให้ชัดเจน ต้องมีเจ้าหน้าที่คอยประจำจุดดูแลความเรียบร้อยป้องกันอุบัติเหตุ พร้อมประสานกับทางกำนันผู้ใหญ่หรือผู้เกี่ยวข้อง อย่าให้เด็กหรือเยาวชนขับขี่รถในช่วงนี้ หากพบเห็น ขอให้แจ้งผู้ปกครองมานำรถกลับไป

ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ตนได้กำชับในที่ประชุมเรื่องการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้กับข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อดูแลอำนวยความสะดวกให้ตั้งจุดตรวจสกัดและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งให้ดำเนินการเร่งรัดเบิกจ่ายให้ได้เรียบร้อยภายใน 2 สัปดาห์ โดยให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส ห้ามมีการทุจริตงบประมาณ ผู้ปฏิบัติงานทุกนายต้องได้รับเงินดังกล่าว อย่าทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกิดความเสียหาย

สำหรับสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์สะสมสองวัน 11-13 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด 936 ครั้ง ลดลงร้อยละ 12.61 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตสะสม 116 ราย ลดลง ร้อยละ 10.77 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ผู้บาดเจ็บสะสม 968 คน ลดลงร้อยละ 9.19 ส่วนการจับกุมในคดีเมาแล้วขับสะสม 3 วัน รวม 11,854 ราย สถิติสูงสุดอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 3,266 คน รองลงมาในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 จำนวน 2,651 ราย.