เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองปทุมธานี พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนสภ.เมืองปทุมธานี เพื่อเร่งรัดคดี และหาเบาะแสของผู้ก่อเหตุ เพื่อนำไปสู่การจับกุมตัว โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก่อนจะแบ่งหน้าที่ชุดสืบสวนไปปฏิบัติหน้าที่หาเบาะแสของคนร้าย พร้อมกับสอบปากคำเพิ่มเติม นายสุรพล นิลวดี อายุ 51 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ผู้เสียหาย

โดย นายสุรพล ให้การว่า ค่ำคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 15 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา หลังจากตนไปจอดรถขายอาหารช่วงเทศกาลสงกรานต์ ก่อนจะขับรถยนต์แท็กซี่โตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาวชมพู ทะเบียน ทฬ 1413 กรุงเทพมหานคร กลับบ้านที่โครงการเอื้ออาทรบ้านฉาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ระหว่างทางมาถึงท่ารถรังสิต มี จยย. คันหนึ่ง ขี่ซ้อนท้ายกันมา 3 คัน ตนจึงเปิดไฟสูงใส่ 1 ครั้ง เพื่อแจ้งเตือนว่า มีรถหลังขับมาต้องการขอทาง แต่อีกฝ่ายกลับไม่พอใจแจกของลับให้ ตนจึงเลื่อนกระจกบอกมีอะไรไปคุยกันหน้าหมู่บ้านเอื้ออาทร พอไปถึงยังไม่ทันคุยกัน อีกฝ่ายก็ชักปืนยิงใส่รถ กระสุนโดนกระจกแตก บาดตามร่างกาย ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 7 ขวบ และ ด.ช.บี (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ หลานที่นั่งมาหลังรถ หลังเกิดเหตุได้รีบพาไปส่ง รพ. รักษาอาการ ภายหลังแพทย์ให้กลับบ้านได้แล้ว

นายสุรพล กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่นมาด้วยกัน 3 คน ไม่สวมหมวกกันน็อก จยย. เป็นรถแบบออโตเมติกสีขาวดำ คาดว่าคงไม่พอใจที่ตนตบไฟสูง จึงอยากให้ทางตำรวจเร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว คนร้ายกลุ่มนี้ ถือเป็นภัยสังคมร้ายแรง ก่อเหตุโดยไม่สนกฎหมายบ้านเมือง เรื่องที่เกิดขึ้นยังถือว่าโชคดี เพราะกระสุนไม่โดนหลาน มิเช่นนั้นอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

ด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า คดีนี้อยู่ระหว่างสืบสวนติดตามผู้กระทำผิด ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่น ใช้ จยย. เป็นยานพาหนะ นั่งซ้อนกันมา 3 คน ระหว่างทางมีปากเสียงกับผู้เสียหาย แล้วมีการนัดหมายพูดคุยกันที่หน้าทางเข้าบ้านเอื้ออาทรบ้านฉาง โดยฝ่ายคนร้ายคาดว่าใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่ 1 นัด คดีนี้ถือเป็นคดีที่สำคัญ เราจะเร่งรัดจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด.