สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ต้อนรับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ผู้นำเยอรมนี ที่เรือนรับรองเตียวหยูไถ่ ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา


หนึ่งในประเด็นสำคัญของการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ซึ่งผู้นำเยอรมนีกล่าวว่า “คำพูดของจีนมีน้ำหนักสำหรับรัสเซีย” ดังนั้น เขาจึงขอเรียกร้องให้จีนใช้อิทธิพลที่มีเหนืออีกฝ่าย เพื่อโน้มน้าวให้รัสเซียยุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครน ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี


ขณะที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (ซีซีทีวี) และสำนักข่าวซินหัว รายงานว่า สีกล่าวกับโชลซ์เกี่ยวกับ “พื้นฐาน 4 ประการ” เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤติการณ์ในยูเครนลุกลามบานปลายจนยากเกินควบคุม และเพื่อฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพ แบ่งเป็นการที่นานาชาติต้องรักษาเสถียรภาพ และสันติภาพ ตลอดจนการหลีกเลี่ยงแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน


นอกจากนี้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องไม่สุมไฟความขัดแย้ง การสร้างเงื่อนไขสันติภาพร่วมกันเพื่อบรรเทาความรุนแรง และการร่วมกันลดผลกระทบเชิงลบจากสงคราม ที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลก


อีกด้านหนึ่ง เยอรมนีซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับต้นของโลก กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากหลายฝ่าย ในการให้ลดการพึ่งพิงด้านห่วงโซ่อุปทานจากจีน


ในระหว่างการหารือกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง โซลซ์ กล่าวว่า เยอรมนีไม่มีนโยบายตัดขาดทางเศรษฐกิจจากจีน อย่างไรก็ดี ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป การเพิ่มความหลากหลายให้กับห่วงโซ่อุปทานเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ


อนึ่ง การเยือนจีนของโชลซ์รอบนี้ เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ประกาศสอบสวนการใข้มาตรการอุดหนุนของจีน ที่มีต่อแผงพลังงานแสงอาทิตย์ ยานยนต์ไฟฟ้า และกังหันลม ซึ่งหลี่ กล่าวว่า มาตรการอุดหนุน “เป็นเรื่องที่ปฏิบัติกันทั่วไป” และอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนของจีนเติบโตได้ด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องรอความสนับสนุนจากภาครัฐ.

เครดิตภาพ : AFP