เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 19 เม.ย. ที่กองทัพอากาศ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม  ให้สัมภาษณ์ถึงความพอใจผลงาน 6-7 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงกระแสข่าวจะถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ผลงานเป็นที่น่าพอใจแต่ยังไม่ 100% เพราะหลายเรื่องยังไม่ออกมา บางเรื่องยังเป็นเรื่องของการเริ่มต้น ส่วนเรื่องปรับ ครม. เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้คิดอะไรมาก ส่วนทำไมถึงมีชื่อของนายสุทินในการปรับ ครม. นายสุทิน กล่าวว่า กระทรวงนี้เป็นที่น่าสนใจ

เมื่อถามว่าหากมีการปรับ แล้วนายกฯ มาควบกลาโหมเอง ตามมารยาทแล้ว นายกฯ จะต้องพูดคุยกับนายสุทินหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า “ผมเคยบอกแล้วว่า นายกฯ เป็นกัปตันทีม ท่านจะเปลี่ยนและสลับตำแหน่งผู้เล่น สามารถทำได้ เพราะเป้าหมายคือต้องได้ประตู และต้องชนะ สำหรับผมไม่มีปัญหา และหากท่านมา ท่านต้องทำอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่ผมทำก็เป็นนโยบายรัฐบาล ใครมาอยู่ตรงนี้ หากมาจากพรรคเรา ก็ต้องทำต่อ”

เมื่อถามต่อว่า ไม่รู้สึกน้อยใจหรือเสียใจ เพราะมาอยู่กระทรวงกลาโหมได้ประมาณ 7 เดือน กำลังวางฐานปรับตัวเข้ากับระบบราชการแต่ถูกย้าย นายสุทิน กล่าวว่า ก็เสียดายเพียงว่าอยากจะใช้เวลาพิสูจน์ว่าพลเรือนก็เป็นรัฐมนตรีที่ดีได้ นักการเมืองก็มีวุฒิภาวะพอที่จะรับผิดชอบงานความมั่นคงได้ เสียดายตรงนี้นิดเดียว ส่วนเรื่องอื่นไม่เสียดาย เพราะใครมาก็ทำต่อได้ ถ้านายกฯ มา อำนาจท่านก็สมบูรณ์อยู่แล้วทำได้ดี 

เมื่อถามอีกว่าบางคนบอกว่าระยะเวลา 7 เดือน น้อยไปที่จะพิสูจน์การทำงาน นายสุทิน กล่าวว่า อยู่ที่เกณฑ์ช่วงเวลา เช่น 6 เดือนทำได้เท่านี้ ก็ดีแล้ว 10 เดือนเท่านี้ 2 ปีต้องเท่านี้ สำหรับ 7 เดือน ก็วัด 7 เดือน ถ้า 7 เดือน ทำได้แค่นี้ ก็พอใจ มันอยู่ที่เกณฑ์วัดและเวลา 

เมื่อถามย้ำว่ามีแรงกระเพื่อมในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะรายชื่อรัฐมนตรีที่หลุด ครม. เป็น สส.อีสาน ถึง 3 คน นายสุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นรัฐมนตรีที่มีชื่อออกมาแสดงท่าทีจะทำให้เกิดปัญหา ทุกคนก็ให้เกียรตินายกฯ ให้เกียรติพรรค ถ้าทุกคนออกมาแสดงท่าทีโวยวาย หรือไม่ให้เกียรตินายกฯ และพรรค อันนี้ตนมองว่าน่าห่วง แต่ตอนนี้ทุกคนมีท่าทีให้ความร่วมมือ 

เมื่อถามว่าไม่ว่านายสุทินจะอยู่ในตำแหน่งใด ยังอยู่พรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า พรรคให้อยู่ก็อยู่ ถ้าอยู่มันอยู่ 2 ฝ่าย คือ พรรคให้อยู่ และเราอยู่ ถ้าคิดจะย้ายพรรคก็ย้ายแล้ว ถูกไหม มีเหตุการณ์หนักกว่านี้ที่ควรย้ายเยอะชีวิตผม

“มีเรื่องเดียวที่ไม่อยากจะพูด แต่ดราม่ากันไปเยอะ ถือโอกาสอธิบายเรื่องมอบพวงมาลัย ส่งแล้วไม่รับ ผมฟังอยู่ผิดเพี้ยนไปเยอะ ผมเข้าพบท่านทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก่อนใครเลย คือวันที่ 9 เม.ย. สองต่อสอง ก็ไปรดน้ำดำหัว และคุยกัน ท่านก็มีเมตตาให้พร ให้คำปรึกษาในการทำงานเยอะ แต่มีคนไปลงข่าว บอกว่าวันที่ 12 เม.ย.นี้ ผมไปขอเข้าพบ แล้วท่านไล่มาทำงาน ไปทำไมบ่อยๆ จะไปวันที่ 14 เม.ย. ยังเกรงใจเลย กลัวว่ามาบ่อย แต่เพื่อนชวนก็ไป ตอนนั้นตอนที่คนเอาคลิปมาลง ถ้าสังเกตดีๆ ผมอยู่กับท่านพายัพ ชินวัตร ท่านพายัพก็ถือ ผมก็ถือพวงมาลัย ก็คุยกัน ท่านพายัพบอกว่าไม่เหมาะ ถ้ามามอบตอนนี้ ให้ท่านนั่งเป็นทางการ เป็นเด็กให้ผู้ใหญ่ ผมไม่ได้ยื่นเลย แต่ผมยกมือไหว้ ถ้าจะมอบผมก็ต้องยื่น ถ้ายื่นท่านก็ต้องรับ ท่านเป็นผู้ใหญ่มีเมตตา ท่านไม่ได้คิดแค่นั้น ขอให้เข้าใจกันใหม่ เรื่องนี้ไม่มี ยังเป็นปกติ ยังคุยปกติ จากนั้นก็เข้าไปนั่งคุยในห้อง แล้วก็มอบให้ แต่ตอนมอบคนไม่ได้ดู” นายสุทิน กล่าว

เมื่อถามต่อว่า นายกฯ ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับการปรับนายสุทินออกจากรัฐมนตรีหรือไม่ และถ้าไม่ได้มีการพูดคุยแต่ปรับออก จะรู้สึกเคืองหรือไม่ นายสุทิน บอกว่า “ไม่พูด ไม่พูดคุยกันเรื่องนี้ ทักทายกันปกติ และไม่เคือง เพราะสุทิน เป็นคนแบบนั้น แฟร์ๆ อยู่แล้ว ให้เกียรติกับทุกคน ส่วนตัวมองว่าหากปรับออก ยังไงก็ต้องมีการบอกและส่งสัญญาณกัน จึงเข้าใจว่ายังไม่ถึงเวลา”

นายสุทิน กล่าวด้วยว่า ส่วนประเด็นเรือดำน้ำที่แก้ปัญหาไม่สำเร็จ และกลายเป็นว่าทำงานไม่สนองนโยบาย จึงเป็นเหตุทำให้ถูกปรับออกจากรัฐมนตรีนั้น ตนคิดว่าไม่เกี่ยว เพราะเป็นการทำงานร่วมกันกับหลายคน  และตนเข้าใจสถานการณ์ดี ยืนยันว่าทำงานตามกฎและนโยบายของรัฐบาล.