เมืองวิตเทียร์ รัฐอะแลสกา นับว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีวิถีชีวิตของชาวเมืองสุดแปลก เนื่องจากประชากรที่มีอยู่ทั้งหมด 217 คนนั้น พักอาศัยอยู่ในอาคารหลังเดียวกันเกือบทุกครอบครัว

วิตเทียร์ อยู่ห่างจากแองเคอเรจ เมืองที่ใหญ่ที่สุดของอะแลสกา เกือบ 100 กม. มีสมญาว่าเป็น “เมืองใต้หลังคาเดียวกัน” จากสภาพที่ครอบครัวส่วนใหญ่ของชาวเมืองพักอยู่ในตึกเดียวกัน ซ้ำยังมีอุโมงค์ทางเข้าเพียงทางเดียว และจะปิดประตูทุกคืน

อาคารที่ทุกครอบครัวในเมืองวิตเทียร์อาศัยอยู่นั้น ชื่อว่า Begich Towers มีทั้งหมด 14 ชั้น ในอดีตเป็นอาคารของค่ายทหาร ภายในตึกมีทั้งสถานีตำรวจ, ร้านค้า, คลินิกรักษาโรค, โบสถ์ มีแม้กระทั่งที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจอยากมาดูชีวิตชาวเมือง ในสภาพที่รวมทุกอย่างไว้ในอาคารหลังเดียว

นักท่องเที่ยวรายหนึ่ง ซึ่งเคยไปเยือนเมืองวิตเทียร์ เขียนเล่าไว้ในเว็บไซต์ชุมชมชื่อดังอย่าง “เรดดิท” ว่า เป็นประสบการณ์ที่ “เหนือจริง” มาก 

จากข้อมูลของบรรดานักท่องเที่ยวของเมืองวิตเทียร์ ประตูอุโมงค์เข้าอาคาร Begich Towers จะปิดสนิททุกคืน ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ถึง 05.00 น. ของอีกวันหนึ่ง และจะไม่อนุญาตให้ใครเข้าออกเมืองในระหว่างนั้น 

สำหรับบรรดาชาวเมืองนั้น มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก และจะรู้ทันทีเมื่อมีคนแปลกหน้าของชุมชน หรือนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่น 

สภาพของเมืองวิตเทียร์ เหมือนกับเมืองในนิยายแฟนตาซี แต่มีอยู่จริง ตอนนี้คนนอกเมืองมีโอกาสได้รับรู้ชีวิตชาวเมือง ผ่านบัญชีโซเชียลมีเดียของ “จาเนสซา” ลูกสาวของนายกเทศมนตรีเมืองวิตเทียร์ ที่มักจะโพสต์คลิปและทำคอนเทนต์เกี่ยวกับชีวิตในเมืองวิตเทียร์ ลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ของ “ชีวิตในเมืองที่ประหลาดที่สุดในโลก”

จาเนสซา อธิบายแนวคิดของการอาศัยอยู่รวมกันในอาคาร Begich Towers ผ่านคลิปวิดีโอของเธอ หญิงสาวเล่าว่า ในตึกขนาดใหญ่หลังนี้ มีทั้งสถานที่สำคัญ เช่น โบสถ์, ที่ทำการไปรษณีย์, ร้านค้า, สำนักงานของหน่วยงานราชการ ฯลฯ ส่วนที่เป็นชั้นล่างสุดของอาคารนั้น มีอุโมงค์ที่เชื่อมต่อระหว่างตึกกับโรงเรียน ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนน

ความจริงแล้ว ไม่ใช่ว่าชาวเมืองทุกคนจะอาศัยอยู่ในอาคาร Begich Towers จาเนสซา กล่าวว่า มีชาวเมืองประมาณ 5% ที่อยู่ในอาคารอีกหลังหนึ่งชื่อว่า “The Manor” ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า เธอเล่าว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเด็ก ๆ ที่เติบโตมาในเมืองวิตเทียร์ โดยเฉพาะเรื่องการหาแฟนของคนหนุ่มสาว ยกตัวอย่างเช่นเธอเอง ซึ่งมีคนในวัยไล่เลี่ยกันอยู่ในเมืองประมาณ 20 คนเท่านั้น และไม่มีอยากออกไปเดทกับใคร เพราะทุกคนต่างโตมาด้วยกัน ทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนใจมากกว่า

ที่มา : ladbible.com

เครดิตภาพ : YouTube / Discover With Ruhi Cenet