จากกรณี นายสมมาศ วรรณทิพภากรณ์ อายุ59ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางไผ่ อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ถูกทำร้ายร่างกายชิงทรัพย์ ขณะเผลอหลับอยู่บนเตียงผ้าใบริมหาดชะอำ จนบาดเจ็บสาหัส ภายหลังตำรวจสภ.ชะอำ เร่งติตามไล่ล่าตัวคนร้ายทันที ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ชะอำ สามารถจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้แล้ว เป็นชายเร่ร่อน ชื่อ นายเชาว์เลิศ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาวอำเภอสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือของ นายสมมาศ โดยจับกุมได้ที่พักเพิกไม่มีเลขที่ ภายในป่าริมถนนเจ้าลาย เขตเทศบาลเมืองชะอำ ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ

จากการสอบสวนให้การรับสารภาพว่า ก่อนจะก่อเหตุทำร้าย นายสมมาศ นั้นได้ดื่มเหล้าเข้าไปจนมึนเมา แล้วก็เดินไปรื้อค้นกองขยะหาของขาย ระหว่างนั้นเห็นผู้เสียหายนอนหลับจึงเข้าไปค้นตัวเพื่อเอาทรัพย์สินมีค่า แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายรู้สึกตัว จึงใช้เหล็กเสียบค้ำล่มเตียงผ้าใบฟาดไปหลายครั้ง ก่อนจะชิงทรัพย์หลบหนี ทางตำรวจจึงแจ้งข้อหา พยายามฆ่า ชิงทรัพย์โดยการทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส เสพสารเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย

ด้าน พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ กล่าว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงตรวจสอบที่เกิดเหตุพบมีพยานบุคคลเห็น ชายเร่ร่อนเดินมาเก็บค่าเตียงผ้าใบ ตรงจุดที่ผู้เสียหายนอนหลับ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบกระทั่งตามไปยังที่พักของ นายเชาว์เลิศ จึงพบกับหลักฐานทางคดีเป็นโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ทำให้คนร้ายจำนนต่อหลักฐาน

ขณะที่ นายแก้ว คงวงศ์ นายอำเภอชะอำ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อด้านการท่องเที่ยวเมืองชะอำเป็นอย่างมาก จึงได้ประสานกับ ผผก.สภ.ชะอำ ให้เร่งรัดจับกุมคนร้ายโดยเร็วที่สุด จนสามรถจับกุมตัวมาได้ ผู้ก่อเหตุไม่ใช่เป็นคนในพื้นที่ แต่เป็นคนนอกพื้นที่มาเร่ร่อนและมาก่อเหตุ ต้องขอชื่นชมตำรวจที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว สามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ภายใน 24 ชม.

สำหรับแนวทางป้องกันต่อไปในอนาคต ได้หารือร่วมกับ นายกเทศมนตรีเมืองชะอำแล้ว ว่าจะต้องเชิญผู้ประกอบการเตียงผ้าใบทั้งหมดมาร่วมประชุม ขอความร่วมมือให้เก็บเตียงผ้าใบใส่ล็อกโซ่เวลากลางคืน มิเช่นนั้นก็จะมีบุคคลมาแอบอ้างเรียกเก็บค่าเตียงผ้าใบ ทำให้เกิดปัญหาขึ้น และขอยืนยันต่อนักท่องเที่ยวว่า ชายหาดชะอำมีมาตรการรักษาความปลอดภัย และรักษาความสงบเรียบร้อยที่เข้มข้น ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่ชะอำต่อไป ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียน และจะพัฒนาให้เมืองชะอำดีขึ้นต่อไป.