สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ว่า สำนักข่าวแห่งชาติของเวียดนามรายงานว่า นางเจือง มี ลัน ประธานบริษัท วัน ติ๋ญ ฟ้าด ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีฉ้อโกงและยักยอกเงิน จากธนาคารไซ่ง่อน คอมเมอร์เชียล แบงก์ (เอสซีบี) ยื่นคำร้องต่อศาลประชาชนเมืองโฮจิมินห์ เพื่อขออุทธรณ์บทลงโทษประหารชีวิต


เนื้อหาตอนหนึ่งของคำร้องอุทธรณ์ อ้างอิงคำกล่าวของจำเลย ว่าเธอ “ไม่ได้ยักยอกทรัพย์” จากเอสซีบี แต่เป็นการ “บริหารจัดการความเสี่ยง” ศาลประชาชนเมืองโฮจิมินห์ยืนยัน ว่านางลันยื่นเรื่องอุทธรณ์จริง และศาลจะพิจารณาตามกระบวนการต่อไป


อนึ่ง ศาลประชาชนเมืองโฮจิมินห์มีคำพิพากษา เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ให้นางลันต้องรับโทษประหารชีวิต จากความผิดฐานฉ้อโกงและยักยอกเงินจากเอซีบี ด้วยการล่อลวงให้ประชาชนร่วมลงทุนในพันธบัตร ตลอดระยะเวลานานกว่า 1 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียหายมากกว่า 40,000 คน


ทั้งนี้ มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นตามคำฟ้อง อยู่ที่ราว 12,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 462,687.50 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม อัยการกล่าวว่า หากคำนวณตามอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน มูลค่าความเสียหายจะสูงถึง 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 999,405 ล้านบาท) เทียบเท่า 6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของเวียดนาม เมื่อปี 2566


ศาลใช้เวลาพิจารณาคดีดังกล่าวนานราว 5 สัปดาห์เท่านั้น คดีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในสังคมเวียดนาม เนื่องจากนางลันเป็นหนึ่งในนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังระดับประเทศ และเป็นกรณีแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่ศาลพิพากษาบทลงโทษประหารชีวิต ให้กับผู้กระทำผิดในคดีอาชญากรรมทางการเงิน


ส่วนจำเลยร่วมที่เหลืออีก 85 คน ซึ่งมีทั้งอดีตเจ้าหน้าที่ อดีตผู้ว่าการธนาคาร และอดีตเจ้าหน้าที่องค์กรเอกชนอีกหลายแห่ง รับโทษมากน้อยลดหลั่นกันไป โดยบทลงโทษสูงสุดสำหรับจำเลยกลุ่มนี้ คือ จำคุกตลอดชีวิต.

เครดิตภาพ : AFP