ก็ปรับ ครม.ประเทศไทยนี่มันมีภาพของ “สมบัติผลัดกันชม”ชัดเจน คือ โควตาพรรค โควตาบ้านใหญ่ (แบบว่าเป็นใหญ่เป็นโตในพื้นที่ หรือเป็นลูกหลานคนใหญ่โตในพื้นที่) โควตาอยู่นาน โควตานายทุน ไม่ทำให้เกิดการรับรู้ว่า “ปรับ ครม.เพื่อเอาคนเก่งมาทำงาน” เห็นเที่ยวนี้เจ็ดเดือนปรับ ก็คิดว่า คงคล้ายสมัยรัฐบาลทักษิณ 1 ปรับไป 10 ครั้ง

คนที่น่าสงสารที่สุด น่าจะเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย ที่เคยรั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรค เคยเป็นดาวสภา พอมารับตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข ก็ค่อยๆ ทำโครงการบัตร 30 บาทใช้ได้ทุกที่ โดยกำหนดจังหวัดนำร่อง แล้วก็ดูเหมือนจะมีนโยบายนำการพัฒนากระทรวงหมอหลายเรื่องอยู่ แต่กลับถูกปรับออกกลางทาง

และถ้า นพ.ชลน่านจะผิดหวัง เสียใจก็ไม่ผิดอะไร ..นพ.ชลน่านเป็นเหมือน “หนังหน้าไฟ” ให้พรรคเพื่อไทยในช่วงที่มีการจัดตั้งรัฐบาล จากเดิมที่ทาง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลขณะนั้นประกาศแล้วว่าจะจับมือกับพรรคที่ไม่ใช่ขั้ว คสช.และส่งเทียบเชิญเพื่อไทยมา แต่ “ด้วยเหตุและผลบางอย่าง” ทำให้เพื่อไทยลอยแพก้าวไกลช่วงหาคะแนน สว.

แล้วดันไปชนแก้วมินต์ช็อกกับพรรคภูมิใจไทย พลังประชารัฐ (พปชร.) รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ตั้งรัฐบาล จนเป็นที่มาของคำว่า “ตระบัดสัตย์” ที่กองแช่ง คสช.เขาแปะหน้าเพื่อไทยไว้ ตอนนั้น นพ.ชลน่าน “รับเละ” แล้วก็ลาออกจากหัวหน้าพรรคแสดงความรับผิดชอบ แต่พอชื่อหัวหน้าพรรคคนใหม่โผล่มา ทุกคนก็พอรู้เหตุผลเบื้องหลังแล้ว

ต่อมา เมื่อเริ่มงานกระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่านมีนโยบายเกี่ยวกับการแยกผู้ติดยาเสพติดออกมาบำบัดรักษา โดยกำหนดว่า “ผู้ที่ถือครองยาบ้าจำนวน 5 เม็ด อยู่ในข่ายผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้” ส่วนหนึ่งเพื่อไม่ให้เกิดปัญหานักโทษล้นคุก และอาจจูงใจให้คนเข้าระบบรักษาได้มากขึ้น แต่อนิจจาเอ๋ย… นพ.ชลน่าน กลายเป็น “หมอห้าเม็ด”

มีการล้อเลียนโน่นนี่มากมาย เช่น ทำเหมือนแผงขายขนมสมัยก่อน ติดซองยาบ้าถุงละห้าเม็ดบ้างล่ะ พอมีข่าวคนคลุ้มคลั่งเพราะยาเสพติด นพ.ชลน่านรับเละ เพราะก็มีกองแช่งเพื่อไทยเอามาเย้ยหยันว่า “นี่ไงนโยบายของหมอห้าเม็ด แทนที่เม็ดเดียวจะจับติดตะรางไปเลย ปล่อยให้ออกมาสร้างความหวาดวิตกให้สังคมอยู่ได้”

เรื่องนี้เข้าใจว่า เจตนาดี แต่การสื่อสารอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้คนเข้าใจได้ว่า “ทำไมถึงต้องกำหนดเกณฑ์ 5 เม็ดเป็นผู้เสพต้องเข้ารับการรักษา” บ้างก็ว่าต่อไปเวลาขายยาบ้าพกไปทีละห้าเม็ดพอ คำเย้ยหยันจากสังคมมีมากมาย แต่ดูเหมือน นพ.ชลน่านยังเดินหน้าทำงานต่อไป ซึ่งถ้าเทียบกับรัฐบาลลุงตู่ ฟีดแบ็กเชิงลบมาขนาดนี้คงเปลี่ยนกลับแทบไม่ทัน

จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่เรื่องยาบ้าห้าเม็ดที่รัฐบาลมีปัญหาการสื่อสาร เรื่องเงินดิจิทัลก็อีกเรื่อง “รมช.หนิม” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ตอบสื่อมวลชนเรื่องขัด ม.28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐหรือไม่ เรื่องจะเอาเงิน ธ.ก.ส.มาใช้ ตามวรรคที่ว่า “อยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์ของหน่วยงานรัฐนั้น” และไม่มีการชี้แจงเรื่องดอกเบี้ยที่ต้องรับภาระจากโครงการ

คำตอบก็อารมณ์ประมาณ ถ้าสงสัยก็ถามกฤษฎีกาดูอีกรอบก็ได้ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องผ่านอีกกี่ด่าน คนแถวๆ นี้ก็บ่นๆ อยู่ว่า รัฐบาลตั้งใจแจกจริงหรือเปล่าเห็นยึกยักจัง ไอ้ที่บอกทำได้ทันทีนี่คืออะไร ? ไอ้ที่ว่าเร่งด่วนคืออะไร ? เพราะก็เห็นศึกษากันไปเรื่อย ศึกษากันอยู่นั่นแหละ เผลอๆ ไตรมาสสี่มีเรื่องให้ศึกษาใหม่อีก..นี่ก็คือเรื่องการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน

ในภาวะความขัดแย้งทางความคิด เพลี่ยงพล้ำหน่อยก็ถูกขยายความ บิดเบือนจากขั้วตรงข้าม สื่อสารอะไรต้องระวัง.

พิราบ บานเย็น