สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) รายงานสถิติยอดรวมการใช้ไฟฟ้าของไทยจาก 3 การไฟฟ้า (การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. , การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA และการไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน.) พบว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 27 เม.ย. 2567 เกิดสภาพอากาศร้อนจัดทั่วประเทศ ซึ่งสะสมความร้อนต่อเนื่องมาหลายวัน ส่งผลให้ประชาชนใช้ไฟฟ้ามากขึ้นจนเกิดพีคไฟฟ้าสูงสุดสร้างสถิติใหม่เป็นประวัติการณ์ถึง 36,356 เมกะวัตต์ เมื่อช่วงค่ำเวลา 20.57 น. ถือเป็นพีคไฟฟ้าที่สูงสุดของประเทศไทยครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในปี 2567 โดยครั้งที่ 1 เกิดพีคไฟฟ้าเมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 เวลา 20.58 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 35,830  เมกะวัตต์ ที่ผ่านมาสำนักงาน กกพ. ได้ประเมิน  ยอดใช้ไฟฟ้าในปี 2567 มีโอกาสทำสถิติสูงสุดถึง 36,000 เมกะวัตต์ได้

เมื่อติดตามภาพรวมการใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ต้นปี 2567 จะพบว่า เกิดพีคไฟฟ้าเฉพาะของปี 2567 ขึ้น 9 ครั้ง โดยมี 2 ครั้งที่นับเป็นพีคไฟฟ้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของประเทศไทย ดังนี้

  • ครั้งที่  1 เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2567 เวลา 19.24 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 30,989.3 เมกะวัตต์
  • ครั้งที่  2 เมื่อวันที่  7  มี.ค. 2567 เวลา 19.47 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 32,704 เมกะวัตต์
  • ครั้งที่  3 เมื่อวันที่  1 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 33,340 เมกะวัตต์
  • ครั้งที่  4 เมื่อวันที่  2 เม.ย. 2567 เวลา 20.51 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 33,827.1 เมกะวัตต์
  • ครั้งที่  5 เมื่อวันที่  4 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 34,196.5 เมกะวัตต์
  • ครั้งที่  6 เมื่อวันที่  5 เม.ย. 2567 เวลา 22.22 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 34,277.4 เมกะวัตต์
  • ครั้งที่  7 เมื่อวันที่  6 เม.ย. 2567 เวลา 20.54 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 34,656.4 เมกะวัตต์
  • ครั้งที่ 8 เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 เวลา 20.58 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 35,830 เมกะวัตต์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 1
  • ครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2567 เวลา 20.57 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 36,356.1 เมกะวัตต์  สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่  2
  • ครั้งที่ 10 เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2567 เวลา 21.00 น. ยอดพีคไฟฟ้าอยู่ที่ 36,699.9 เมกะวัตต์ (สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 3)

โดยนอกจากการเกิดพีคไฟฟ้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งที่ 3 ของไทยแล้ว ยังเป็นการเกิดพีคไฟฟ้าครั้งที่ 10 เฉพาะของปี 2567 ด้วย ซึ่งจำนวนการเกิดพีคไฟฟ้าดังกล่าวนับเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 8 ปี นับจากปี 2559 ที่เคยมีจำนวนการเกิดพีคสูงสุดอยู่ 7 ครั้ง มียอดใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 29,618 เมกะวัตต์

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าพีคไฟฟ้าตลอดปี 2567 ที่เกิดขึ้น จะเกิดในช่วงกลางคืนเท่านั้น เนื่องจากในช่วงกลางวันมีการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งปัจจุบันมีการติดตั้งใช้งานอยู่ประมาณ 3,000 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ช่วยตัดยอดพีคในช่วงกลางวันลงได้ และในตอนกลางคืนประชาชนจะกลับมาใช้ไฟฟ้าในระบบ 3 การไฟฟ้าตามปกติ จึงส่งผลให้พีคไฟฟ้าไปเกิดในช่วงกลางคืนแทน  แม้ไทยจะเกิดยอดพีคไฟฟ้าที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 36,356 เมกะวัตต์ แต่กำลังผลิตไฟฟ้าของไทยยังมีมากถึง 53,852 เมกะวัตต์ ดังนั้นมั่นใจได้ว่าไทยจะไม่เกิดปัญหาไฟฟ้าตกดับ

สำหรับข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุถึงรายภาค แต่ละพื้นที่ ที่มีอุณหภูมิสูงสุด เริ่มจากภาคเหนือ 44.2C ร้อนสุดที่อ.เถิน จ.ลำปาง (22 เม.ย.) ตะวันออกเฉียงเหนือ 43.60 องศาฯ  ร้องสุดที่อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม (27 เม.ย.) กลาง 44.00 องศาฯ  ร้อนสุดที่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี (27 เม.ย.) ตะวันออก  42.00 องศาฯ ร้อนสุดที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว (27 เม.ย.) ใต้ (ฝั่งตะวันออก) 41.1 องศาฯ   ร้อนสุดที่ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช (19 เม.ย.) ใต้ (ฝั่งตะวันตก) 39.90 องศาฯ  ร้อนสุดที่ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ (10 เม.ย.) กรุงเทพมหานคร 40.4 องศาฯ  ร้อนสุดที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ เขตคลองเตย (21 เม.ย.) ปริมณฑล 42.5 องศาฯ  อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี (27 เม.ย.).