ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ ยังคงเกาะติดปัญหาการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร งบประมาณ 558.2 ล้นบาท 8 โครงการ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย จัดสรรให้ตามโครงการพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ แก้ไขปัญหาน้ำท่วม ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2562 แต่ถึงปัจจุบันยังก่อสร้างไม่เสร็จ เกิดความเสียหายกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน เศรษฐกิจชุมชนเมืองพังเสียหายกลายพันล้าน ทั้งนี้หลังจาก นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริง ปัญหาการก่อสร้างโครงการวางระบบประปาป้องกันน้ำท่วม และโครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ 4 โครงการ จากทั้งหมดทั่วจังหวัด 8 โครงการ มีผู้รับจ้างจากกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย 2 หจก. ประกอบด้วย หจก.ประชาพัฒน์ และ หจก.เฮงนำกิจ เป็นเครือข่ายเดียวกัน ผลตรวจสอบพบมีลักษณะทิ้งงาน จึงมีคำสั่งขึ้นแบล็กลิสต์ตัดสิทธิผู้รับจ้าง ไม่ให้เข้าร่วมประมูลงานของกรมโยธาฯ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เปิดเหตุผล? อธิบดีกรมโยธาฯ แจงเหตุสั่งเชือด ‘2ผู้รับเหมาขาใหญ่’ 8 โครงการ 7 ชั่วโคตร

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2567 ทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงานว่า ควันหลงในที่ประชุม เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา ภายในห้องประชุมสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองกาฬสินธุ์ ระหว่างที่ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมคณะรับฟัง ข้อร้องเรียนและแนวทางแก้ไขปัญหา จากนายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคม ในการต่อต้านการทุจริต ป.ป.ท.เขต 4 ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ คณะ กธจ.กาฬสินธุ์, นายประหยัด เรเชียงแสน ข้าราชการบำนาญ, นายดำรงศักดิ์ สง่าวงศ์ ข้าราชการบำนาญ, ด.ต.สมคิด นันทสมบูรณ์ นายกเทศบาลตำบลลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์, นายธนกฤต ระวาดชัย นายก อบต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย และตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบและเดือดร้อน ยังมีกลุ่มแรงงาน-ผู้รับเหมา ที่ร่วมทำงานกับ 2 หจก.ขาใหญ่ ได้เสนอปัญหาสะท้อนสังคม โดยเฉพาะแรงงานในพื้นที่ แจ้งอีกหนึ่งเหตุผลที่ 8 โครงการนี้ ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ เนื่องจาก 2 หจก.ขาใหญ่ เบิกเงินค่างวดแล้วไม่ไปจ่ายให้กับกลุ่มแรงงาน การเสนอปัญหาจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศความเงียบขรึม ทำเอาทุกคนในห้องประชุมน้ำตาซึมและน้ำตาตกในไปตามๆ กัน

นายศักดิ์ชัย กาญจนวัฒน์ หนึ่งแรงงาน-รับเหมาพื้นที่ กล่าวว่า เป็นผู้รับเหมาจาก จ.บุรีรัมย์ รับช่วงงานจาก หจก.เฮงนำกิจ 3 โครงการ ที่แก่งดอนกลาง, ซอยน้ำทิพย์ และวัดใหม่สามัคคี โดยการทำงานที่ผ่านมาไม่เคยเบิกเงินตามงวดงานได้เลย จึงต้องมาขอแจ้งปัญหาและขอความเมตตาจากอธิบดีกรมโยธาฯ ได้หาทางออกให้กับตนและพี่น้องแรงงานด้วย ที่ต้องการทราบว่าจะช่วยหาแนวทางช่วยเหลืออย่างไร เพราะเข้ามาทำงานในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ก็ดีใจ เพราะจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะมาเจออะไรแบบนี้

“ไม่เคยคิดไม่ดีต่อบ้านเมืองเลย ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ จริงใจ ตรงไปตรงมา ไม่เคยมีประวัติทำงานไม่ดี พอมาเจอที่กาฬสินธุ์ก็แปลกใจ ทำไมเป็นแบบนี้ เพราะตั้งแต่เข้ามาทำงานในกาฬสินธุ์ไม่เคยได้รับเงินเลย ซึ่งหากทำต่อไปไม่รู้ว่าจะได้เงินหรือไม่” นายศักดิ์ชัย กล่าว

นายศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า ตนกับเพื่อนผู้รับเหมา 3 คนลงขัน นำโฉนดที่ดินไปจำนองกับแหล่งเงินทุนร้อยละ 3 เพื่อซื้อวัสดุ เสาเข็ม ลงทุนแล้วกว่า 9 ล้านบาท แต่เบิกเงินตามงวดงานไม่ได้สักที เคยไปทวงถามที่สำนักงานบริษัทขาใหญ่ก็ไม่ได้ กลับบอกให้เอารถราคาหลักแสนไปขายราคาหลักล้าน หรือเอาที่ดินไปขายในราคาสูงๆ เอาเลย แล้วอย่างนี้จะให้เอาไปขายที่ไหน ใครจะซื้อ ตอนนี้หมดหนทางจริงๆ ทำไมทำงานที่นี่จึงเจอกับปัญหาอย่างนี้ ไม่เข้าใจจริงๆ ยังไงก็ขอความเมตตาสงสารจากอธิบกรมโยธาฯ ได้โปรดช่วยเหลือผู้รับเหมา-แรงงานที่ทำงาน ว่าพอจะมีช่องทางที่จะได้เงินค่าจ้างหรือไม่ หรือหากยกเลิกสัญญาหรือเปลี่ยนผู้รับเหมาคู่สัญญากับกรมโยธาฯ แล้ว ตนขอทำงานต่อได้หรือไม่

หลังรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้รับเหมาช่วง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในหลายๆ ราย ที่นำเงินมาทำงานลงทุนแล้วกลับไม่สามารถเบิกเงินตามงวดงานจากบริษัทขาใหญ่ได้ และเสียงสะอื้นจากตัวแทนชาวบ้านผู้เดือดร้อน จากการก่อสร้างที่ล่าช้าดังกล่าว สื่อให้เห็นถึงความทุกข์ระทมของผู้ได้รับผลกระทบต่างกรรม ต่างวาระ จึงเกิดเป็นกระแสไวรัล “เรื่องมันเศร้า” ถึงวันนี้ เพราะต่างก็ได้รับความทุกข์ เจ็บปวดใจ จากการกระทำของผู้รับเหมาขาใหญ่ทิ้งงาน ปล่อยชาวบ้านกาฬสินธุ์ ผู้ประกอบการและผู้รับเหมาช่วงเผชิญชะตากรรมลำพัง

รายงานแจ้งว่าชาวบ้าน-ผู้รับเหมาแรงงาน ยังคงเฝ้าติดตามความชัดเจนในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการที่ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย จะได้ออกคำสั่งการยกเลิกโครงการและการส่งหนังสือเวียนห้างเป็นผู้รับเหมาทิ้งงาน เพื่อไม่ให้ 2 หจก.ขาใหญ่ ไปสร้างปัญหาเช่นนี้อีกในจังหวัดอื่น แต่ในมุมกลับกัน มีรายงานแจ้งว่าแนวทางในการยกเลิกโครงการไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาฬสินธุ์ จะต้องเร่งทำหนังสือส่งไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อให้นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ลงนาม จากนั้นจะต้องส่งเรื่องไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อทำการยกเลิกสัญญา เนื่องจากเป็นสัญญาที่จะมีผลตามกฏหมายกับภาครัฐ ดังนั้นคำประกาศของ อธิบดีกรมโยธาฯ จึงเป็นสิ่งที่ชาวบ้านเฝ้าติดตามว่าจะกล้าทำจริงหรือไม่ เนื่องจากในที่ประชุมยังได้พูดถึงอิทธิพลของ 2 หจก.ขาใหญ่ ที่มีเส้นสายในกระทรวงการคลัง รวมไปถึงเส้นสายโยงใยนักการเมืองระดับประเทศอีกด้วย