สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ว่า เกี่ยวกับความคืบหน้า หลังสำนักงานวิทยาภูเขาไฟแห่งชาติอินโดนีเซียรายงาน ภูเขาไฟ “รวง” ซึ่งเป็นภูเขาไฟแบบกรวยสลับชั้น ที่มีความสูงเพียง 725 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ในจังหวัดสุลาเวสีเหนือ บนเกาะสุลาเวสี ปะทุอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา โดยเป็นการปะทุซึ่งทิ้งช่วงเพียงประมาณ 2 สัปดาห์ หลังการปะทุเมื่อกลางเดือน เม.ย.


สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของอินโดนีเซีย สั่งอพยพประชาชนเพิ่มเป็น 12,000 คน ขณะที่การปิดสนามบินในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 7 แห่ง หนึ่งในนั้นคือ ท่าอากาศยานนานาชาติ แซม ราตูลังกี ซึ่งตั้งอยู่ที่มานาโด ในจังหวัดสุลาเวสีเหนือ

AFP


ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติอินโดนีเซีย ระบุว่า กลุ่มควันและเถ้าถ่านจากการปะทุของภูเขาไฟรวงรอบนี้ ลอยไปปกคลุมถึงภาคตะวันออกของมาเลเซีย ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว และเกาะแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของบรูไน อีกทั้งบางภูมิภาคของอินโดนีเซียด้วย

นอกจากนี้ มีการประกาศขยายรัศมีของพื้นที่อันตราย ครอบคลุมรัศมีเพิ่มเป็น 7 กิโลเมตร โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นกับภูเขาไฟรวง ตลอด 24 ชั่วโมง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับ แนวโน้มการเกิดสึนามิ หากภูเขาไฟถล่มลงสู่ก้นทะเล ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะเป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2561 ที่เป็นผลจากการถล่มของภูเขาไฟ “อานัก กรากาตัว” ส่งผลให้เกิดสึนามิซัดเข้าสู่ชายฝั่งของเกาะสุมาตรา และเกาะชวา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 400 ราย


ปัจจุบัน อินโดนีเซียมีภูเขาไฟประมาณ 130 ลูก ส่วนใหญ่เป็นภูเขาไฟที่ยังมีพลัง แน่นอนว่าภูเขาไฟมาราปีคือหนึ่งในนั้น และการที่อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนเขต “วงแหวนไฟแห่งแปซิฟิก” ซึ่งเป็นการเรียงตัวของรอยต่อเปลือกโลกเป็นแนวคล้ายเกือกม้า จึงเผชิญกับสถานการณ์ภูเขาไฟปะทุและแผ่นดินไหวเป็นประจำ.

เครดิตภพาพ : AFP