ตำนานกองหน้าทีมชาติไทย “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน แสดงความเห็นว่า แม้ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” ไปจัดที่ประเทศสิงคโปร์ แต่ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ก็ต้องแชมป์สถานเดียว มิเช่นนั้นสถานการณ์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ลำบากแน่

สมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลแห่งอาเซียน (เอเอฟเอฟ) ตัดสินใจเลือก สิงคโปร์ เป็นเจ้าภาพจัดชาติเดียว โดยโหวตชนะประเทศไทยที่เสนอตัวเช่นกัน ส่วน กัมพูชา ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเสนอตัวนั้น คุณสมบัติไม่ครบ ทั้งนี้ ฟุตบอลซูซูกิ คัพ จะจัดระหว่างวันที่ 5 ธ.ค.64 ถึงวันที่ 1 ธ.ค.65 นี้ ซึ่งไทย อยู่กลุ่มเดียวกับ “เจ้าภาพ” สิงคโปร์ ซะด้วย ส่วนอีก 3 ทีม คือ ฟิลิปปินส์, เมียนมา และ ทีมจากเพลย์ออฟ (บรูไน หรือ ติมอร์เลสเต)

ความเห็นของ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน นั้น ก่อนหน้านี้เจ้าตัวพูดในรายการ “แตงโมลง ปิยะพงษ์ยิง” ถึงการตั้ง มาโน โพลกิง คุมทีมชาติไทย ว่าเชื่อในประสบการณ์ และจะทำให้เกมรุกของทีมช้างศึกจัดจ้านขึ้น

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่ สิงคโปร์ ได้รับคัดเลือกเป็นเจ้าภาพ ซึ่ง เดอะตุ๊ก กล่าวว่า ถือว่าเหมาะสมแล้ว ที่สิงคโปร์ได้รับเลือกในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ซึ่งค่อนข้างจะควบคุมได้ดี เอเอฟเอฟ ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยมากที่สุดเหนืออื่นใด ต้องยอมรับว่าการระบาดขอโควิด-19 และการเสียชีวิตในไทยยังมีตัวเลขที่สูง เมื่อเทียบกับสิงคโปร์

เมื่อถามถึงโอกาสคว้าแชมป์ของทีมชาติไทย เจ้าของแชมป์ 5 สมัย ปิยะพงษ์ กล่าวว่า เมื่อต้องไปเตะที่สิงคโปร์ ที่อยู่กลุ่มเดียวกัน ย่อมไม่ใช่งานง่ายของทีมชาติไทย อย่างไรก็ตาม เรื่องโอกาสเข้ารอบรองชนะเลิศนั้น ไม่ต้องพูดถึง ยังไงไทยก็ต้องผ่านไปให้ได้ และต้องไปถึงรอบชิงชนะเลิศ รวมทั้งต้องแชมป์สถานเดียว ถ้าหากไม่ได้งานนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เจอสถานการณ์ลำบาก พบแรงกดดันหนักแน่

สำหรับโปรแกรมรอบแรกของทีมชาติไทย วันที่ 5 ธ.ค. พบทีมเพลย์ออฟ, วันที่ 11 ธ.ค. พบ เมียนมา, วันที่ 14 ธ.ค. พบ ฟิลิปปินส์ และวันที่ 18 ธ.ค. พบ สิงคโปร์ โดยคัด 2 ทีมเข้ารอบรองฯ โดยรอบรองฯ กับ รอบชิงฯ ยังเตะแบบ 2 นัด เหมือนเดิม แม้ไปจัดที่สิงคโปร์ประเทศเดียวก็ตาม