เมื่อวันที่ 2 พ.ค. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวชี้แจงถึงกรณียื่นหนังสือลาออกต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ว่า เหตุผลอันดับแรก คือ ตนได้หารือเกี่ยวกับปัญหาน้ำหลาก เพื่อที่จะป้องกันได้อย่างไร จังหวัดลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่นครสวรรค์ลงมา สิงห์บุรี อ่างทอง ปทุมธานี เราจะคุยกันตลอดในช่วง 2 ถึง 3 ปีที่ผ่านมา ปริมาณน้ำมากจนก็เกือบจะแย่ แล้วช่วงฤดูน้ำหลากที่จะถึงนี้ ปริมาณน้ำคาดว่าจะมากกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งทางปทุมฯ เราสู้มาตลอดเวลาสามปี เพื่อให้จังหวัดปทุมธานีไม่จมน้ำ เราได้มีการประสานพูดคุยกันตลอดเพื่อเตรียมการตั้งรับ เมื่อได้พูดคุยกันทุกจังหวัด หากเข้าการเลือกตั้งตามปกติ ที่จะหมดวาระในวันที่ 19 ธ.ค. เมื่อหมดวาระแล้ว ก่อนหมดวาระ 6 เดือน เราจะช่วยเหลือประชาชนไม่ได้เลย อะไรก็ต้องอยู่ในกฎกติกาหมด เบิกจ่ายไม่ได้ ยิ่ง 3 เดือนสุดท้ายยิ่งแย่ใหญ่เลย เราจึงตัดสินใจด้วยกันในฐานะประธานสมาพันธ์นายก อบจ. ภาคกลาง ทุกคนจึงมีความเห็นว่า หากเราช่วยเหลือประชาชนไม่ได้ เราจะอยู่ทำไม่ เมื่ออยู่แล้วทำอะไรไม่ได้ ซึ่งเราคาดว่าปีนี้น้ำจะเยอะ นี่คือเหตุผลหลัก เป็นเหตุผลที่ต้องออกก่อน จะออกพร้อมกัน 3 จังหวัด โดยทาง นครสวรรค์ และอ่างทอง เราได้คุยกัน โดยตนได้ยื่นใบลาออกมีผลตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ส่วนจังหวัดอื่นๆ เดี๋ยวคงตามมาอีก เพราะเมื่อเข้าสู่ 180 วัน จะเริ่มระวังตัวกัน และข้อกฎหมายยุบยิบ

ประเด็นที่สอง สิ่งที่กังวลที่สุดคือเรื่องวัคซีน ที่ฉีดให้พี่น้องประชาชนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ตนได้บทเรียนจากสถานการณ์โควิด-19 เราได้นำซิโนฟาร์มมาฉีดให้พี่น้องประชาชน นำนวัตกรรมใหม่ๆ มา เป็นจังหวัดเดียวเลยที่สู้มาตลอด แล้วนำร่องมีการตั้งโรงพยาบาลสนาม เมื่อมีการระบาดไข้หวัดใหญ่ในพื้นที่ปทุมธานีเป็นอันดับหนึ่งในพื้นที่สุขภาพเขตที่ 4 ต้องขอบคุณท่านสาธารณสุขจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด จนมีการจัดซื้อวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุดให้พี่น้องประชาชน ขณะนี้มีการระดมฉีด ซึ่งทางสาธารณสุขคาดว่าจะระบาดอย่างรุนแรงที่สุดในช่วงต้นฤดูฝน จึงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ต้องลาออกก่อน

ส่วนอีกประเด็นเราจะมีงานพระราชพิธี งานประเพณีที่ยิ่งใหญ่ในการจัดแข่งเรือยาวประเพณีที่เป็นประเพณีของจังหวัดปทุมธานี เราได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากล้นเกล้ารัชกาลที่ 10 พระราชทานถ้วยรางวัลถึง 3 ถ้วย สมเด็จพระราชินีอีก 1 ถ้วย เราจัดมาแล้ว 2 ปี กำหนดไว้วันที่ 5 ธ.ค. หากผมไม่ออกก่อนในวันที่ 19 ธ.ค. จะครบ มันใกล้เลือกตั้งทันที ผมจะทำอะไรไม่ได้จัดอะไรก็ไม่ได้ งานที่เป็นหน้าตาของปทุมธานีจะเสียหาย ภายในงานไม่ได้มีเพียงแข่งเรือยาวอย่างเดียว แต่จะมีการแสดงสินค้าโอทอป เศรษฐกิจจะต้องหลั่งไหลเข้ามา

และประเด็นสุดท้าย เพราะว่าการเลือกตั้ง สว. ที่จะถึงนี้ เนื่องจากตนเป็นประธานสมาพันธ์นายก อบจ. ภาคกลาง 25 จังหวัด การเลือกตั้ง สว. ครั้งนี้มีกติกายุบยิบ กติกาที่ไม่เคยมีมาก่อน ประชาชนไม่ได้เลือก สว. ไม่ได้มาจากประชาชน สว. จะมาจากการเลือกกันเองของคนบางกลุ่ม มีหลายๆ คนที่ประสานมาหา เนื่องจากตนมีสายสัมพันธ์กับประธานสมาพันธ์ฯ อีก 3 ภาค เพื่อที่จะให้ตนช่วยเหลือในการล็อบบี้ได้ กฎหมายมันแรงมาก ถึงขนาดตัดสิทธิตลอดชีวิต และมีจำคุก 1 ถึง 10 ปี หากใครที่มีส่วนกับการฮั้ว จึงคิดว่าเราเลือกตั้งนี้ ไม่ยุ่ง วางตัวเป็นกลางทางการเมืองจริงๆ และเมื่อลาออกครั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้มีผล จะเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน ก็จะลงอีก หรือหากเป็นคนอื่น เขาก็จะบริหารและใช้เวลาเต็มที่ และเริ่มต้นใหม่ในการที่จะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป ไม่ต้องมากังวลกับอะไร เหล่านี้คือเหตุผลที่ลาออก ที่ทำเพื่อประชาชน

“ผมรู้สึกสบายๆ อยู่แล้ว เพราะตอนที่ผมเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารจังหวัดปทุมธานี ผมก็ไม่เคยคิดที่มาเป็นนายก อบจ. เพราะมีน้องๆ ผอ. จากหลายโรงเรียน และผู้นำท้องถิ่น รวมถึงประชาชนเป็นจำนวนมาก มาพูดคุย เพื่อต้องการให้ช่วยกันพัฒนาการศึกษา และพัฒนาเมืองปทุมธานีให้รุ่งเรืองเทียบเคียงกับจังหวัดอื่นๆ ชั้นนำของประเทศ เมื่อเข้ามาแล้ว ก็มีโครงการที่ต่อเนื่อง ผมจึงไม่เครียดในการที่ลาออก และเลือกตั้งใหม่ใน 60 วัน แต่เราต้องคิดถึงประชาชนเป็นหลักเท่านั้นเอง ผมมองเพียงว่าประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับคืออะไร มันมีมากกว่ามหาศาล กับเวลาอีก 7 ถึง 8 เดือน เราลาออกไม่ได้ยึดติด ผมไม่ได้กังวลอะไร โดยเหตุผลที่สำคัญคือฤดูน้ำหลาก เรื่องโรคระบาด และการแข่งขันเรือประเพณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปทุมธานี” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าว