เมื่อวันที่ 2 พ.ค. กรมราชทัณฑ์รายงานว่านับตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูร้อนมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว โดยสภาวะอากาศที่ร้อนขึ้นในปัจจุบัน อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของประชาชนทั่วไป รวมถึงการใช้ชีวิตของผู้ต้องขังภายในเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาในเรื่องนี้และให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของผู้ต้องขังภายในเรือนจำมาโดยตลอด จึงได้กำหนดมาตรการและแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการควบคุมผู้ต้องขัง เพื่อรองรับสภาพอากาศที่ยังคงร้อนอย่างต่อเนื่อง โดยสภาวการณ์ดังกล่าว กรมราชทัณฑ์ จึงได้ดำเนินการออกมาตรการและแนวทางให้กับเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศถือปฏิบัติเพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นแก่ผู้ต้องขัง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการควบคุมและการใช้ชีวิตภายในเรือนจำและทัณฑสถาน

กรมราชทัณฑ์ ระบุต่อว่า สำหรับมาตรการและแนวทาง ประกอบด้วย 1.จัดเก็บน้ำที่มีความสะอาดไว้ให้เพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคของผู้ต้องขัง ทั้งในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน รวมถึงการประสานหน่วยงานต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที 2.กำหนดจำนวนผู้ต้องขังในแต่ละห้องให้สอดคล้องกับขนาดพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด 3.เอาใจใส่ดูแลสุขภาพอนามัยของผู้ต้องขังเป็นพิเศษ โดยระมัดระวังโรคระบาดที่เกี่ยวกับทางเดินอาหารและโรคผิวหนัง พร้อมจัดเตรียมเจ้าหน้าที่พยาบาลหรืออาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำให้ความรู้ในการสุขอนามัยของตนเอง 4.จัดสภาพห้องนอน โรงงานฝึกวิชาชีพ อาคารสถานที่ให้มีอากาศที่ถ่ายเท พร้อมติดตั้งพัดลมอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 5.กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังในการควบคุม สอดส่องดูแลอย่างเคร่งครัด 6.เพิ่มความระมัดระวังเกี่ยวกับการเกิดอัคคีภัย ตรวจสอบอาคารสถานที่ สายไฟฟ้า จัดเก็บวัสดุต่างๆ มิให้เป็นเชื้อไฟ ตลอดจนอุปกรณ์ระงับเหตุไฟไหม้ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน อีกทั้งอุปกรณ์ระงับเหตุร้ายต่างๆต้องอยู่ในสภาพใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ 7.ระมัดระวังเรื่องการออกกำลังกาย การฝึกแถวให้คำนึงถึงสภาพอากาศเป็นสำคัญ และ 8.พิจารณาขยายระยะเวลาขึ้นเรือนนอนให้ช้าลงกว่าเดิม

กรมราชทัณฑ์ ระบุอีกว่า กรมฯ ยังคงออกแนวทางปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่องให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้การควบคุมดูแลผู้ต้องขังมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงสุขภาพร่างกายและความปลอดภัยของผู้ต้องขังเป็นสำคัญ ซึ่งแม้ผู้ต้องขังจะขาดอิสรภาพแต่จะไม่ขาดสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามหลักสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด.