หลังจากเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ทาง ไมโครซอฟท์ บริษัทยักษ์ไอทีระดับโลก โดย นายสัตยา นาเดลลา ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทย และได้ประกาศลงทุนตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ระดับภูมิภาคในประเทศไทย แต่ไม่มีประกาศลงทุนตัวเลขว่าเป็นเงินเท่าไร ต่างจากที่ได้เดินทางไปเยือนอินโดนีเซีย ที่ได้ประกาศลงทุน 1,700 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 63,000 ล้านบาท ในอีก 4 ปีข้างหน้า ในการสร้างศูนย์ข้อมูล เพื่อขยายบริการคลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) สำหรับประเทศมาเลเซีย ได้ประกาศ ลงทุน 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ  81,100 ล้านบาท ในด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ และคลาวด์คอมพิวติ้ง

วันนี้ (2 พ.ค.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า การที่ ไมโครซอฟท์ ประกาศลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย แต่ยังไม่มีตัวเลขการลงทุนเปิดเผยออกมา แต่กับประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย กับมีตัวเลขลงทุนนั้น เนื่องจากที่ผ่านมาทางไมโครซอฟท์ มีการทำงานร่วมกับอินโดนีเซีย และมาเลเซีย มา 2-3 ปีแล้วในเรื่องนี้ แต่กับประเทศไทย เพิ่งมีการทำสัญญาความร่วมมือระหว่างกัน (MOU) ไปเมื่อปลายปี 2566

“การลงทุนในประเทศไทยของ ไมโครซอฟท์ ในการตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ อยู่ในขั้นพิจารณา ว่าจะมีขนาดเท่าไร ใช้พื้นที่ไหน ซึ่งขณะนี้ไมโครซอฟท์ได้ส่งทีมวิศวกรของบริษัทเข้ามาสำรวจพื้นที่ในไทย เพื่อจัดตั้งดาต้าเซ็นเตอร์แล้ว จากนั้นจะนำข้อมูลที่ได้ศึกษาไปจัดทำแผนการทำงาน และงบลงทุน เพื่อเสนอต่อบอร์ดบริหารของบริษัทใหญ่ในต่างประเทศต่อไป และเชื่อว่าเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว จะมีการประกาศในภายหลัง นอกจากนี้การเข้ามาลงทุน ต้องมีการพูดคุยกันอีกหลายเรื่อง และหลายหน่วยงาน เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ และมีองค์ประกอบอื่น ไม่ใช่คุยแต่กับกระทรวงดีอีเท่านั้น”

นายประเสริฐ บอกว่า ในเบื้องต้น ที่ได้พุดคุยในวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ทางดีอีและไมโครซอฟท์ จะนำปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) มาใช้ในเรื่องการตรวจจับข้อมูลอาชญากรรมในศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หรือศูนย์ AOC 1441 เพื่อให้การแก้ไขปัญหาออนไลน์ มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย