เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ตามเวลาประเทศไทย นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้นำคณะไปตรวจประเมินมาตรฐานค่ายสอนมวยไทย 3 แห่ง ในประเทศอังกฤษ ได้แก่ เจเจที มวยไทย ยิม กรุงลอนดอน, มังกี้ มวยไทย เมืองแบร็คเนลล์ และซูเปอร์ไฟร์ มวยไทย เมืองเรดดิง

สำหรับการประเมินมาตรฐานครั้งนี้ ได้มีการตรวจสอบถึงสถานที่สอน อุปกรณ์ จำนวนผู้ร่วมเรียน ความสามารถและจำนวนของครูสอน โดยได้รับความร่วมมือจากทั้ง 3 ค่ายมวยเป็นอย่างดี หลังจากการตรวจสอบและประเมินแล้ว ค่ายที่ผ่านมาตรฐานจะได้รับการรับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย กกท. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งผู้สอน ผู้เรียน และต่อยอดสร้างประโยชน์ด้านอื่นๆ ต่อในอนาคตได้

นายปรีชา กล่าวว่า การมาตรวจค่ายครั้งนี้ มีผลดีกับค่ายที่จะได้รู้ว่ามาตรฐานในการเป็นค่ายมวยไทย ต้องมีมาตรฐานอะไรบ้าง เมื่อได้รับการรับรองจาก กกท. ซึ่งเป็นองค์กรกีฬาจากประเทศต้นทางมวยไทยแล้ว จะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจมากขึ้น ส่งผลต่อรายได้ที่ดีขึ้นของค่ายมวยนั้นๆ ส่วนประเทศไทย ก็จะได้เผยแพร่มวยไทยที่ถูกต้องจริงๆ เมื่อขยายไปตรวจมาตรฐานในประเทศต่างๆ ทั่วโลกแล้ว ก็จะมีคนที่สนใจเรียนมวยไทยมากขึ้น คนเหล่านั้นเมื่อเรียนแล้ว ก็จะมีจำนวนมากพอสมควรที่อยากไปเรียนมวยไทยที่ประเทศไทย ซึ่งได้มีการเตรียมค่ายมาตรฐานเอาไว้แล้ว 400 กว่าแห่ง และจะขยายไปให้มากขึ้นตามเป้ามากกว่า 500 ค่ายทั่วประเทศ ที่มีเทรนเนอร์ที่อบรมมาเรียบร้อยแล้ว

สำหรับ ครูมวยไทย ที่ฝึกออกมาแล้วนั้น จะเป็นฐานที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยากจะไปฝึกมวยที่ไทย และยังสามารถมาทำงานให้ค่ายมวยในต่างประเทศอย่างถูกต้องด้วย รวมทั้งยังจะมีการอบรมครูมวยชาวต่างประเทศ ให้ได้มาตรฐานที่ถูกต้องในระดับไลเซนส์ ให้สร้างนักมวยไทยที่แข็งแกร่งส่งต่อไปแข่งขันในรายการใหญ่ๆ ที่ไทยได้ จากการที่ไปมาหลายๆ ประเทศ ทั้งเยอรมนี, ฝรั่งเศส, อังกฤษ ทุกค่ายอยากได้รับองค์ความรู้ การอบรม และการรับรองจาก กกท. แต่ต้องสร้างความเชื่อมั่นว่า เมื่อไปอบรมแล้วจะเพิ่มมูลค่าให้กับค่ายของพวกเขาได้ ในทางกลับกัน ค่ายเหล่านี้ก็มีคอนเนกชั่นที่จะส่งนักมวยไปเรียนและไปแข่งที่ไทย สร้างรายได้ให้ประเทศไทยด้วย

“การเรียนและสอบไลเซนส์ เราก็พร้อมที่จะสนับสนุน โดยให้ครูมวย ที่ต้องการเรียน รวมตัวกันให้ได้จำนวนหนึ่ง กกท. จะส่งเจ้าหน้าที่มาสอนและสอบ แต่ก็ต้องมีการจัดหาพื้นที่ในการเรียนและสอบรอไว้ให้ได้ด้วย โดยเราจะมีการประสานกับสถานทูตไทยในประเทศต่างๆ ถ้ามีครูมวยในประเทศนั้นอยากจะสอบไลเซนส์จริงๆ” นายปรีชา กล่าว