นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอี โดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) และเทคซอร์ส มีแผนส่งเสริมอุตสาหกรรมดิจิทัลสตาร์ทอัพไทย ให้สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้ ล่าสุดได้ร่วมกับพันธมิตร คือ บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน), ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), เอสซีจี, สมาคมการค้าสตาร์ทอัพไทย, บริษัท ทรู ดิจิทัล พาร์ค จำกัด, บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็น เทค เกตเวย์ (Tech Gateway) ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

“การผลักดันไทย เป็น เทค เกตเวย์ จะเป็นประตูแห่งโอกาส ที่จะช่วยทำให้เกิดการดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนไทย องค์กรระหว่างประเทศ และทุกภาคส่วน และยังช่วยเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาดิจิทัลในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคตอย่างยั่งยืนด้วย”

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า สำหรับกลยุทธ์ประกอบไปด้วย การดึงบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ หรือ เทค ทาเลนต์ จากต่างประเทศเข้ามาทำงานในประเทศไทยมากขึ้น เพื่อร่วมเสริมองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีในภูมิภาค สร้างบุคลากรหัวกะทิและคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพให้เกิดขึ้นในประเทศไทย พร้อมทั้ง ขยายฐานการผลิตจากต่างประเทศสู่ประเทศไทย ส่งเสริมความร่วมมือในด้านเทคโนโลยี โดยการนำเทคโนโลยีที่องค์กรไทยไปลงทุนจากต่างประเทศกลับมาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถแก่ประเทศไทย และเพิ่มการลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีในประเทศไทย โดยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามายังประเทศไทย ที่จะเริ่มในเดือน ส.ค. นี้

นอกจากนี้ จะเร่งยกระดับนวัตกรรมของประเทศไทยและเสริมความสามารถในการสร้างนวัตกรรมให้กับธุรกิจไทย หรือ “ไทย-ใช้-ไทย” และนำองค์กรด้านนวัตกรรมของไทย ให้เติบโตสู่ระดับภูมิภาค และสุดท้าย คือพัฒนาทักษะให้กับ เทค ทาเลนต์ ของไทยได้เติบโตสู่เวทีโลก และดึงดูด เทค ทาเลนต์ ไทยที่อยู่ในต่างแดนให้กลับมาช่วยกันพัฒนาประเทศ

ด้าน นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า ในการขับเคลื่อน Tech Gateway ครั้งนี้ ดีป้า ได้ประกาศลงทุนในบริษัท Techsauce Media พร้อมขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกัน โดยการที่ ดีป้า เข้าลงทุนใน Techsauce ซึ่งเป็น Tech Ecosystem Builder จะช่วยเกื้อหนุนการดำเนินงานของกันและกัน และยกระดับการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาระบบนิเวศดิจิทัลสตาร์ทอัพไทยและอุตสาหกรรมดิจิทัลของประเทศอย่างเข้มแข็งต่อไป

นายณัฐพล กล่าวในช่วงเสวนาภายใต้หัวข้อ Thailand’s Path Forward: Unity and Action Through Collaboration ว่า การดำเนินงานภายใต้โครงการ Tech Gateway นั้น ดีป้า มองว่า กระบวนการขับเคลื่อนประเทศในปัจจุบันต้องเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างเครือข่ายพันธมิตรทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่ง ดีป้า เล็งเห็นถึงศักยภาพของ Techsauce ที่จะทำหน้าที่เป็น Marketing Arm ในการเชิญชวนนักลงทุน โดยเป็นการทำงานเสริมกับที่ภาครัฐดำเนินการอยู่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับสิ่งที่ ดีป้า กำลังดำเนินงาน นั่นคือการพัฒนาโครงการ Thailand Digital Valley พื้นที่ที่จะเป็น Friendly Community ให้กับประเทศไทย อีกทั้งเป็นศูนย์กลางสำหรับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลก ที่จะได้พบกับบริษัทเทคโนโลยีไทยเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลในระยะต่อไป

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีพิธีลงนามในบันทึกแสดงเจตจำนง (MOI) การส่งเสริมและสนับสนุนดิจิทัลสตาร์ทอัพในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศระหว่าง กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และ Techsauce รวมถึงการประกาศจัดงาน Techsauce Global Summit 2024 ภายใต้แนวคิด The World of Tomorrow with AI ระหว่างวันที่ 7-9 สิงหาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และมีกำหนดจัดงาน Techsauce Global Summit ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในเดือนกันยายน และที่ประเทศเวียดนาม ในเดือนตุลาคม โดยความร่วมมือกับ บริษัท กสิกร บิชิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของการเป็น Tech Ecosystem Builder เชื่อมโยงความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเดินหน้าสู่เป้าหมายการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็น Tech Gateway ของภูมิภาคต่อไป