สาเหตุจากความ น้อยใจ จากคำสั่งแบ่งงานในกระทรวงการคลัง เพราะในช่วงที่ “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน นั่งควบนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พบว่า คำสั่งกระทรวงการคลังที่ 2306/2566 เรื่อง การมอบอำนาจให้ รมช.คลัง ปฏิบัติราชการแทน รมว.คลัง พบว่าคำสั่งเดิม “เสี่ยนิด” มอบหมายให้ “ปลัดตู่” มีอำนาจในการสั่งการ กำกับดูแล และการปฏิบัติราชการหรือดำเนินการอื่นที่ รมว.คลัง ได้แก่ กรมบัญชีกลาง กรมสรรพสามิต สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) องค์การสุรา การยาสูบแห่งประเทศไทย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

ขณะที่ “เสี่ยหนิม” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในคำสั่งเดิม มีอำนาจในการสั่งการ การกำกับดูแลกรมสรรพากร กรมธนารักษ์ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) บริษัทบริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด

แต่เมื่อกระทรวงการคลังมีรัฐมนตรี 4 คน ได้แก่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง รัฐมนตรีช่วย 3 คน ได้แก่  “เสี่ยหนิม” จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง จากพรรคเพื่อไทย “อ๊อฟ” เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง จากพรรคเพื่อไทย และ “ปลัดตู่” กฤษฎา รมช.คลัง จากพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยการแบ่งงานเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 67 “ปลัดตู่” ที่มีประสบการณ์เป็นถึง อดีตปลัดกระทรวงการคลัง แต่ได้กำกับดูแลส่วนราชการหลักเพียงที่เดียว คือ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ส่วนรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐในกำกับของกระทรวงการคลังที่ได้กำกับ ได้แก่ การยาสูบแห่งประเทศไทย สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือ สพพ.

ขณะที่ รมช.คลัง อีก 2 คน ได้กำกับส่วนราชการหลักคนละ 3 หน่วยงาน โดย “เสี่ยหนิม” จุลพันธ์ รมช.คลัง กำกับดูแล กรมศุลกากร กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต ส่วนรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐในกำกับของกระทรวงการคลังที่ได้กำกับ ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) องค์การสุรา โรงงานไพ่ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ส่วน “อ๊อฟ” เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กำกับดูแล สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กรมธนารักษ์  ส่วนรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐในกำกับของกระทรวงการคลังที่ได้กำกับ ได้แก่ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย

ถ้าพรรคเพื่อไทยต้องการคุมกระทรวงการคลังแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อเข็นนโยบายเรืองธงของรัฐบาล อย่าง “ดิจิทัลวอลเล็ต” จึงไม่แปลกที่ “รัฐมนตรีข้าวนอกนา” จากพรรครวมไทยรักษาชาติ ก็จะต้องถูกลดบทบาทลงเช่นกัน 

ดังนั้นก็ต้องจับตาดูว่า “เสี่ยนิด” นายกรัฐมนตรี จะแก้ปัญหาโดยใช้บารมีการเป็น “นายกรัฐมนตรี” จัดระเบียบ ครม. ให้อยู่เป็นปึกแผ่น และสามารถกล่อม “ปลัดตู่” ให้กลับมาทำงานต่อได้หรือไม่?.