เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย รอง ผกก.5 บก.ป. ร่วมแถลงผลจับกุม นายธนวิชญ์ หรือเพชร ขวัญเมือง อายุ 44 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ซ่อนเร้นอำพรางศพ” นายไพฑูรย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี และ น.ส.อำพิลา (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ข้อหา “ร่วมกันรับของโจร” หลังสามารถจับกุมนายธนวิชญ์ ได้ในพื้นที่ ต.กระโสม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา นายไพฑูรย์ ถูกจับกุมตัวได้ที่ริมถนนสายบ้านเก่า-ห้วยน้ำขาว หมู่ 2 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ส่วน น.ส.อำพิลาจับกุมได้ที่ริมถนนสุขาภิบาลหวายเหนียวสาย 2 หมู่ 1 ต.แสนตอ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

พล.ต.ต.มนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2566 ญาติของ นางสุดารัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือตำรวจ สภ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ว่า นางสุดารัตน์ หายตัวไปจากบ้าน พร้อมรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน ขค 1797 นครศรีธรรมราช จึงร่วมกับ กก.5 บก.ป. ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านพัก ก่อนพบร่องรอยประตูห้องนอนถูกทำลาย เชื่อว่าการหายตัวไปน่าจะถูกประทุษร้ายต่อชีวิต จึงเร่งกระจายกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสเป็นการด่วน ก่อนรถยนต์ของผู้ตายได้ขับเข้ามาในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี มุ่งหน้าไปทางพื้นที่ชายแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน จึงเร่งติดตามยึดรถกลับคืน พร้อมแกะรอยสืบสวนเรื่อยมา กระทั่งทราบว่านางสุดารัตน์ถูกฆ่าฝังศพอำพรางทิ้งไว้บนภูเขาหลังสำนักสงฆ์บ้านเขาล้อม อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับกลุ่มคนร้าย 9 คน

โดยผู้ต้องหามีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน 3 กลุ่ม กลุ่มแรก 4 คน ทำหน้าที่ลักพาตัวไปสังหาร กลุ่มที่ 2 นำรถผู้ตายไปขายประเทศเพื่อนบ้าน 4 คน ส่วนอีกคนที่เหลือทำหน้าที่ฝังอำพรางศพ ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจกองปราบปรามได้ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมตัวได้แล้ว 3 คน (ลักพาตัวไปสังหาร 2 คน และอำพรางศพ 1 คน) จากนั้นขยายผลต่อเนื่องจนกระทั่งจับกุม นายธนวิชญ์ ตัวการสำคัญที่ทำหน้าที่เข้าไปอุ้มฆ่าผู้ตายกับ นายไพฑูรย์ และ น.ส.อำพิลา ที่ทำหน้าที่นำรถไปขายประเทศเพื่อนบ้านได้เพิ่มเติมดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ปทักข์ กล่าวว่า สำหรับชนวนเหตุการอุ้มฆ่าครั้งนี้ แนวทางสืบสวนเชื่อว่าเป็นการฆ่าล้างหนี้ยาเสพติดหรือธุรกิจผิดกฎหมาย เนื่องจากตัว นางสุดารัตน์ ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร แต่สามีเป็นเอเย่นต์ยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงจากการตรวจสอบประวัติ นายธนวิชญ์ หนึ่งในผู้ต้องหา พบว่าเคยมีประวัติรับจ้างอุ้มทวงหนี้ และก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จึงเชื่อว่าน่าจะรับงานว่าจ้างจากนายทุนยาเสพติดให้มาก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ยังไม่ยอมเปิดเผยมูลเหตุสังหารผู้ตาย แม้ในเบื้องต้นจะให้การรับสารภาพ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างกลาง ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.