เมื่อวันที่ 4 ต.ค. พ.ต.ท.ศรัณยพงศ์ อังคะนาวิน สว.(สอบสวน) สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี รับแจ้งผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ที่บ้านเลขที่ 159/4 หมู่ 2 ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.บ้านบึง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยศีลธรรมสมาคม ที่เกิดเหตุพบเป็นร้านปะยางรถยนต์ ภายในห้องครัว พบศพ นางหนูใหญ่ ฟักสนิท อายุ 61 ปี สภาพศพนั่งบนพื้นขาทั้งสองข้างขนาบเตาถ่านที่มอดดับแล้ว ใบหน้าฟุบอยู่ในหม้อต้มสมุนไพร บริเวณหน้าอกติดอยู่กับเตาถ่านเป็นรอยไหม้ที่ผิวหนังและหัวไหล่ทั้งสองข้าง มีผ้าห่มนวมหลากสีคลุมทับอีกที โดยศพเริ่มแข็งคาดเสียชีวิตมาแล้วหลายชั่วโมง จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐานก่อนนำส่งชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

สอบสวน นายบุญเยือน ฟักสนิท อายุ 57 ปี สามีผู้ตาย เบื้องต้นให้การว่า ช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.00 น. ผู้ตายนำเอาเตาถ่านมาจุดไฟต้มสมุนไพรสูดดมป้องกันโควิด โดยนำเอาผ้าห่มมาคลุมทับศีรษะเหมือนอบสมุนไพร ตนเห็นจึงถามว่า ทำไมนั่งแบบนี้เพราะอากาศไม่ถ่ายเท แต่เจ้าตัวก็นิ่งเฉยไม่ตอบโต้ ก็เลยไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะรู้ว่าผู้ตายมีความอดทนสูงมาก คงอยากตั้งใจอบสมุนไพรอย่างจริงจัง จากนั้นตนเดินออกไปทำธุระนอกบ้าน กระทั่งเกือบเที่ยงวันกลับมาบ้าน จากนั้นลูกสะใภ้ได้เดินมาบอกว่าให้ไปเรียกแม่ให้หน่อยหลังเรียกแล้วแต่ไม่ยอมคุยด้วย ตนจึงเดินเข้าไปดูและตะโกนเรียก แต่ก็เงียบไม่มีเสียงตอบรับก็คิดว่ายังคงตั้งใจสูดดมสมุนไพรอย่างจริงจัง ตนจึงมานั่งกินอาหารหลังกินเสร็จเข้าไปดูอีกครั้งยังนิ่งเฉยผิดปกติ จึงเปิดผ้าห่มออกถึงกับตกใจ เพราะเสียชีวิตแล้ว โดยที่ใบหน้าทิ่มอยู่ในหม้อต้มสมุนไพร จึงรีบขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านและแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ

นายบุญเยือน กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ตายเพิ่งจะเคยต้มสมุนไพรสูดดมเป็นครั้งแรก ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงอยากฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนทั่วไปว่าก่อนที่จะทำอะไรควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีเสียก่อน สำหรับตนเปิดร้านปะยางกับผู้ตายและช่วยงานมาโดยตลอด ซึ่งผู้ตายมีร่างกายแข็งแรงมาก ทำงานได้เหมือนผู้ชาย ทั้งนี้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมาตนถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 4 จำนวน 2 ใบ กำลังจะเอาเงินไปเข้าบัญชีให้ผู้ตาย แต่ยังไม่ทันจะเข้าบัญชี ก็ต้องนำเอาเงินที่ได้มาจัดการงานศพภรรยาตนเอง ถือว่าเป็นทุกขลาภ ทั้งนี้สามีและลูกไม่ติดใจของสาเหตุการเสียชีวิต สันนิษฐานว่าอาจขาดอากาศหายใจวูบดับ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ต้องรอผลชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนดำเนินการตามขั้้นตอนกฎหมายต่อไป