ณ เวลานี้โลกกำลังเผชิญกับวิกฤติท้าทายจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง องค์กรธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก ต่างตระหนักถึงความสำคัญของประเด็นดังกล่าว จึงหันมาดำเนินธุรกิจด้วยการปรับกลยุทธ์ และแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับ หลัก ESG (Environmental, Social, and Governance) หรือสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล เตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

เช่นเดียวกันกับ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP บริษัทด้านโซลูชันบรรจุภัณฑ์แนวหน้าของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ ESG อย่างจริงจัง โดย ‘วิชาญ จิตร์ภักดี’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ฉายภาพให้เห็นถึงแผนการดำเนินงานของ SCGP ว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนฟื้นตัวต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ภาคการผลิต การส่งออก การท่องเที่ยวของไทยที่ดี ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ใช้บรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น โดยธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร มียอดขายเติบโตทุกกลุ่มสินค้า และเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวของบรรจุภัณฑ์สินค้าคงทน เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ขณะที่ธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการในประเทศ และการส่งออกในบางพื้นที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเอเชียใต้ ส่วนธุรกิจเยื่อ และกระดาษ มียอดขายบรรจุภัณฑ์อาหารเพิ่มขึ้น จากปัจจัยการท่องเที่ยวฟื้นตัวเช่นกัน

‘SCGP’ ได้เดินหน้า 5 กลยุทธ์หลัก เพื่อให้ธุรกิจสามารถขับเคลื่อนได้อย่างยั่งยืน เป็นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ (Quality Growth) ประกอบด้วย 1.การขยายกำลังการผลิต จากการเติบโตตามอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) และใช้กลยุทธ์ควบรวมกิจการ และร่วมมือกับพันธมิตร (Merger & Partnership – M&P) ในธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโต เช่น ธุรกิจบรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจบรรจุภัณฑ์กระดาษ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ ฯลฯ เพื่อรองรับความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากภาคการผลิตและส่งออก 2.ประสบการณ์ลูกค้าและนวัตกรรม การแก้ปัญหาPain Point ต่างๆของลูกค้า ผู้บริโภค เช่น นำนวัตกรรมซอฟต์ซีลมาใช้ในฝาโยเกิร์ต เปิดฝาแล้วไม่เลอะ ให้สะดวกต่อการใช้งานของผู้บริโภคมากขึ้น

3. การเป็น Digital Excellence โดยใช้ ‘B2B2C’ หรือการทำธุรกิจระหว่างเจ้าของธุรกิจสู่เจ้าของธุรกิจ เชื่อมต่อธุรกิจกับลูกค้า และเป็นรูปแบบธุรกิจ E-commerce ที่รวมธุรกิจแบบ B2C และ B2B เข้ามาไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างธุรกิจที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น 4. ดำเนินธุรกิจด้วย ESG เช่น การนำพลาสติก PCR (Post-Consumer Recycled Resin) ที่ผ่านการใช้งานแล้ว มาใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดคงรูป เพื่อช่วยลดการสร้างพลาสติกใหม่ และเกิดเป็นบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก หรือแม้แต่การผลิตกระดาษที่เป็นรีไซเคิลคอนเทนต์ได้มากถึง 99.6% และ 5. People and Capability ส่งเสริมให้บุคลากรเพิ่มขีดความสามารถตลอดจนพัฒนาทักษะที่ส่งผลต่อการมีสมรรถนะยอดเยี่ยมขึ้น

“เห็นได้ว่า สุดท้ายทุกอย่างมัน Realize ด้วย People and Capability ของคน เราทำธุรกิจใน 90 ประเทศให้สามารถเติบโตได้โดยใช้ 5 กลยุทธ์นี้ ด้วยความตระหนักว่า หน้าที่ของเรา คือ การส่งมอบไลฟ์สไตล์ที่จะทำให้ผู้บริโภคสะดวกสบายขึ้น ถ้าถามว่า สินค้ามันว้าวไหม มันไม่ได้ว้าว แต่ของที่เขาใช้ เงินที่เขาจ่ายไป คือ ความคุ้มค่า คือการยกระดับประสบการณ์ที่ดีขึ้น”