เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงบ่ายวันที่ 22 พ.ค. 67 ผ่านมา มีเหตุระทึกเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อตำรวจทางหลวงพยายามสกัดจับกุมแก๊งลักลอบขนแรงงานต่างด้าวที่ใช้รถกระบะ 5 คัน พาชาวเมียนมาไปส่งยังอ.ตากใบ จ.นราธิวาส ก่อนจะอาศัยช่องทางธรรมชาติผ่านเข้าไปยังมาเลเซีย

โดยช่วงแรกตำรวจตั้งด่านสกัดทุกเส้นทาง แต่อีกฝ่ายพยายามขับรถหลบหนี จนสุดท้ายต้องขับรถไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด ภายหลังเจ้าหน้าที่ขับรถติดตามอย่างต่อเนื่องจนขับข้ามอำเภอไปจนถึง ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา ก็สามารถสกัดจับรถกระบะได้ 2 คัน โดยมีคนขับรถคือ นายมูฮัมหมัด (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี, นายอัสฮา (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ทั้งสองเป็นชาวจ.ปัตตานี พร้อมแรงงานชาวเมียนมารวม 11 คน

จากการสอบสวนทั้งสองให้การอ้างว่า ไปรับชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองจากป่าละเมาะใกล้นิคมอุตสาหกรรมฉลุง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เพื่อไปส่งยัง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 5,000 บาท โดยมี นายมะสุกรี (สงวนนามสกุล) เป็นคนสั่งการและขับรถนำทีมคาราวานแรงงานเถื่อน

ขณะที่แรงงานชาวเมียนมาให้การอ้างว่า ต้องการหลบหนีสงครามกลางเมืองไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย มีการจ่ายเงินค่านายหน้าไปแล้ว 5,000 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณ 35,000 บาท โดยนายหน้าพาข้ามฝั่งมายังประเทศไทยก่อนขึ้นรถกระบะคันละ 11-12 คน ซึ่งจะมีการสำรวจเส้นทาง หากมีการตั้งด่านก็จะแวะพักตามจุดพักรถต่าง ๆ แต่สุดท้ายฝ่ายตำรวจเห็นคาราวานรถผิดปกติ จึงเกิดการสกัดจับกุมตามไล่ล่าดังกล่าว

เบื้องต้นแจ้งข้อหา คนขับรถ “ร่วมกับพวกที่หลบหนีให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ให้การช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่ ฯ” ส่วนแรงงานต่างด้าวถูกแจ้งข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการทางกฎหมาย.