• ประวัติศาสตร์จารึก #ประเทศไทย ชาติแรกในอาเซียน

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับ ประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 74 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร ในฐานะประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียน และชาติที่ 5 ของทวีปเอเชีย ที่ได้รับเลือกจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ในการได้รับเกียรติ ถูกรับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ จัดอีเวนต์นอกสนามที่ยิ่งใหญ่สุดของ ฟีฟ่า

ตลอดอีเวนต์การจัดงาน ด้วยความทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และการสนับสนุนจากรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ตลอดจนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน สร้างความประทับใจแบบไม่รู้ลืมให้กับแขกผู้มาเยือน ทั้งในส่วนของ 211 สมาคมสมาชิกภายใต้ ฟีฟ่า, เหล่านักเตะระดับตำนาน และแขกอื่น ๆ รวมกว่า 3,000 คน สร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับประเทศไทย และได้รับคำชื่นชมอย่างมากมาย จาก ประธานฟีฟ่า, ประธานเอเอฟซี และผู้นำองค์กรลูกหนังที่ต่างประทับใจในการดูแลต้อนรับ นับตั้งแต่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย จนกระทั่งวันสุดท้าย ที่เดินทางกลับบ้าน

• ทำงานแข่งกับเวลา #มาดามแป้ง ‘มือประสานสิบทิศ’

ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งนี้ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ส่วนสำคัญต้องขอขอบคุณ ภาครัฐบาล และ ภาคเอกชน ที่ร่วมด้วยช่วยกันอย่างเต็มที่ รวมถึง คนไทยทุกคน ที่เป็นเจ้าภาพที่ดีร่วมกัน แต่อีกส่วนที่ต้องกล่าวถึง หนีไม่พ้น “มาดามแป้ง” นายกสมาคมฯ ที่ทำหน้าที่เป็นมือประสานสิบทิศ เพราะหลังการเลือกตั้ง นายกสมาคมฯ ครั้งใหม่จบลง เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา “มาดามแป้ง” และสภากรรมการชุดใหม่ ต้องเผชิญกับความท้าทาย และภารกิจครั้งสำคัญทันที เพราะมีเวลาเพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น ในการเตรียมเป็นเจ้าภาพงานใหญ่ ‘ระดับโลก’ ครั้งนี้ ซึ่งยังไม่นับภารกิจด้านอื่น ๆ ของสมาคมฯ อีกมากมาย..

ปฏิเสธไม่ได้ว่า “มาดามแป้ง” ต้องทำงานแข่งกับเวลามาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่เร่งประสาน ขอเข้าประชุมร่วมกับ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน และ ทุกหน่วยงาน, ประชุมร่วมกับ ฟีฟ่า เพื่ออัปเดตความพร้อมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสานในเรื่องสำคัญทั้ง วีซ่า และการรับคนเข้า-ออก จาก 211 ประเทศที่เดินทางมา ก่อนได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทุกภาคส่วน ทั้ง รัฐบาลไทย, การกีฬาแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB จนทำให้ ฟีฟ่า ยกย่องว่า การประชุมฟีฟ่า คองเกรส ครั้งนี้ ที่ประเทศไทย เป็นหนึ่งในการประชุมที่สวยงามที่สุด

นอกจากนี้ “มาดามแป้ง” ยังทำหน้าที่เป็น ‘เจ้าบ้าน’ ที่ดี เมื่อมีโอกาสไปต้อนรับประธานฟีฟ่า, ประธาน เอเอฟซี และ ประธาน ยูฟ่า ที่เดินทางถึงประเทศไทยด้วยตัวเอง ที่สำคัญ ในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลหญิง คนแรกของเอเชีย ยังได้รับเกียรติจากทาง ฟีฟ่า ให้ร่วมกล่าวต้อนรับสภาฟีฟ่า ในการประชุม FIFA Council, ร่วมเสวนากับผู้บริหารหญิงในวงการฟุตบอล Leadership Forum : Executive Women In Football และ ฉากไฮไลต์ คือ การขึ้นกล่าวต้อนรับ 211 ชาติสมาชิก ในงานประชุม ฟีฟ่า คองเกรส อีกด้วย แสดงให้เห็นถึงการ ‘ยอมรับ’ และความชื่นชมจากสุดยอดผู้นำทั้งหมดที่เดินทางมา

• ส่งต่อ #SoftPower ผ่านการแสดง ศิลปะ วัฒนธรรม ท่องเที่ยว และอาหารไทย

ประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการจัดประชุมระดับโลก และประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ฝากความประทับใจมากมาย ผ่านการแสดง ศิลปะ วัฒนธรรมต่าง ๆ รวมถึง สถานที่ท่องเที่ยว, อาหารไทย ในงานเลี้ยงต้อนรับที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลไทย ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 และทุกๆ รอยยิ้มจากประชาชนคนไทย ในทุกๆ กิจกรรม

โดยหนึ่งในไฮไลต์สำคัญ คือ ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ส่งต่อ #SoftPower ด้วยการมอบผ้าไหมยกดอกลำพูน ให้แก่ Leena Al Ashqar คู่สมรสของ จานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า ซึ่งเธอได้นำไปตัดเย็บสวมใส่ในงานประชุม ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 74 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา มีภาพปรากฏออกไปสู่สายตาผู้คนที่รับชมการถ่ายทอดสดการประชุมทั่วโลก อีกทั้งยังใส่มาร่วมงาน เปิดอาคารที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในช่วงบ่ายอีกด้วย

ในอดีตที่ผ่านมา ประเทศไทย เคยมีโอกาสได้จัดอีเวนต์ ระดับโลก ไปเพียงแค่สองครั้งเท่านั้นก็คือ ฟุตซอลโลก ในปี 2012 และฟุตซอลหญิงชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เมื่อปี 1999

• เกิดขึ้นที่ประเทศไทย #บราซิล ชาติแรกในอเมริกาใต้ ชนะโหวตเจ้าภาพบอลโลกหญิง 2027

ฟีฟ่า คองเกรส หรือ การประชุมสุดยอดผู้นำองค์กรฟุตบอลจากทั่วโลก นำโดย จานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า พร้อมด้วยผู้นำองค์กร จาก 6 ทวีป ทั้ง เอเอฟซี, ยูฟ่า, คอนเมโบล, ซีเอเอฟ, คอนคาเคฟ, และ โอเอฟซี พร้อมกับ ผู้นำจาก 211 ชาติสมาชิก รวมถึงบรรดาเหล่าตำนานนักฟุตบอลระดับโลก จะมารวมตัวกัน เพื่อประชุมร่วมกันในการยกระดับกีฬาฟุตบอล และหารือในวาระสำคัญต่างๆ ของโลกลูกหนัง โดยในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการเปิดโหวตเลือกเจ้าภาพฟุตบอลหญิง ชิงแชมป์โลก 2027 ก่อนที่ ประเทศบราซิล จะชนะโหวต กลุ่มประเทศยุโรป (BNG) เบลเยียม, เนเธอร์แลนด์ และ เยอรมนี 119 คะแนน ต่อ 78 คะแนน ทำให้ บราซิล ได้ชื่อว่าเป็นประเทศแรกในทวีปอเมริกาใต้ ที่เตรียมเป็นเจ้าภาพฟุตบอลหญิง ชิงแชมป์โลก

  • รวมวาระสำคัญเกิดขึ้นในประเทศไทย
  • ทัวร์นาเมนต์ ฟุตซอลหญิงชิงแชมป์โลก (FIFA Futsal Women’s World Cup 2025) จะจัดขึ้นครั้งแรกในปี 2025 โดย ประเทศฟิลิปปินส์
  • ทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (FIFA U-17 Women’s World CUp 2025-2029) โดยจะจัดขึ้นที่ประเทศโมร็อกโก โดยแบ่งสล็อตแต่ละทวีปดังนี้ เอเอฟซี 4 สล็อต, ซีเอเอฟ 5 สล็อต, คอนคาเคฟ 4 สล็อต, คอนเมโบล 4 สล็อต, โอเอฟซี 2 สล็อต และ ยูฟ่า 5 สล็อต
  • ทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลเยาวชนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (FIFA U-17 World Cup 2025-2029) จะจัดที่ประเทศกาตาร์ โดยแบ่งสล็อตแต่ละทวีปดังนี้ เอเอฟซี 9 สล็อต, ซีเอเอฟซี 10 สล็อต, คอนคาเคฟ 8 สล็อต, คอนเมโบล 7 สล็อต, โอเอฟซี 3 สล็อต, ยูฟ่า 11 สล็อต
  • ทัวร์นาเมนต์ FIFA Arab Cup ที่เสนอโดย สมาคมฟุตบอลกาตาร์ และ กาตาร์ จะเป็นเจ้าภาพ ในปี 2025, 2029, 2033 ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามหลักการในการเชิญตัวแทนแต่ละชาติ ซึ่งจะไม่ได้อยู่ในปฏิทินฟีฟ่า เดย์

• ตำนานนักเตะระดับโลก กับกิจกรรม สร้างแรงบันดาลใจเด็กและเยาวชน

นอกจากการประชุม ฟีฟ่า คองเกรส แล้ว ประเทศไทย ยังได้รับสิ่งดี ๆ มากมาย ทั้งการจัดกิจกรรม FIFA For School ที่จัดขึ้นควบคู่กัน เพื่อช่วยพัฒนาเหล่าผู้ฝึกสอน และครูโรงเรียนระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ได้นำศาสตร์ลูกหนังไปส่งต่อให้บรรดาเด็กและเยาวชนจากรุ่นสู่รุ่น รวมถึง กิจกรรม Football Legacy ที่ฟีฟ่าได้นำเหล่าบรรดา ตำนานนักเตะชื่อดังระดับโลก อาทิ หลุยส์ ฟิโก, มาร์กอส คาฟู , ซาห์มี เคดีรา, เวสลีย์ ชไนเดอร์, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ และ ยูริ จอร์เกฟ มาร่วมเล่นฟุตบอลกับน้องๆ เยาวชน ซึ่งถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ผ่านทางกีฬาฟุตบอล ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับ เยาวชน ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาฟุตบอลในอนาคต

เชื่อได้เลยว่า ฟุตบอลปัจจุบัน ไม่ใช่แค่กีฬาฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุด เพราะอย่างที่ทราบการประชุมในครั้งนี้ ได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากมายจากแขกผู้มาเยือนที่เดินทางเข้ามากว่า 3,000 คน ดังนั้น เมื่อเขาเหล่านั้นได้รับความประทับใจ จึงมีโอกาสที่จะเดินทางกลับมาเที่ยวประเทศไทย อีกครั้ง ในภาคของการท่องเที่ยว และการประสานงานในด้านต่างประเทศ และมีโอกาสที่ประเทศไทย จะได้จัดทัวร์นาเมนต์สำคัญๆ อีกมากมาย รวมถึงการกระชับความสัมพันธ์ เพื่อการพัฒนาประเทศร่วมกันในอนาคต

• สิ่งที่ประเทศไทย จะได้รับหลังจาก ฟีฟ่า คองเกรส

การจัดงานประชุมสุดยอดผู้นำองค์กรฟุตบอล ระดับโลก ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งนี้ นับเป็นการก้าวไปอีกก้าวของ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่กำลังก้าวสู่ปีที่ 109 ภายใต้การบริหารของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ในการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพนอกสนาม ที่ได้ส่งความสำเร็จไปสู่สายตาชาวโลกเป็นที่ประจักษ์เรียบร้อยแล้ว

สุดท้ายนี้ ในนามของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน ที่มาร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อประเทศไทย ขอบคุณรัฐบาล ที่นำโดย นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน, การกีฬาแห่งประเทศไทย, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ทุกหน่วยงานของภาครัฐ และภาคเอกชน ตลอดจนพี่น้องชาวไทย ที่มาร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีร่วมกัน จน ‘เราประสบความสำเร็จร่วมกัน’ รวมถึง ขอขอบคุณ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่เชื่อมั่นประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพ ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 74 และ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ที่ให้การสนับสนุน สมาคมฯ อย่างเต็มที่..

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะภาคภูมิใจไปกับเรา และกลายเป็นภาพความทรงจำที่ดีร่วมกัน