“บิ๊กเอ” ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา พร้อมด้วย ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกันเปิดโครงการ MUAYTHAI FOR ALL หรือ ต้นกล้ามวยไทย ที่โรงเรียนวัดธาตุทอง เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 67
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/S__13762609.jpg)
สำหรับโครงการ MUAYTHAI FOR ALL หรือ ต้นกล้ามวยไทย เป็นการส่งเสริมครูมวยไทย ที่จบหลักสูตรมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬามวยไทย และผ่านการทดสอบสมรรถนะกีฬามวยไทย ให้ได้มีพื้นที่ในการฝึกสอนกีฬามวยไทยขั้นพื้นฐานในโรงเรียนระดับชั้นประถมศึกษา และมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนามาตรฐานทางด้านกีฬามวยไทยระดับพื้นฐาน สู่เยาวชนของชาติ อันเป็นหนึ่งในกระบวนการขับเคลื่อนกีฬามวยไทย “มวยไทยซอฟต์พาวเวอร์” ของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ที่กำลังเดินหน้า ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/S__13762596.jpg)
ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ กล่าวว่า โครงการต้นกล้ามวยไทย ได้เริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ที่โรงเรียนวัดธาตุทอง เป็นแห่งแรก โดยได้นำมวยไทยที่เป็นซอฟต์พาวเวอร์ เข้าถึงประชาชนและเยาวชน โดยไม่ได้มีเพียงโรงเรียนวัดธาตุทอง แต่ยังมีอีก 22 โรงเรียนในโครงการ ที่จะนำครูมวยเข้ามาสอน ซึ่งแต่ละโรงเรียน จะมีการสอนมวยไทย สัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 2 ชั่วโมง เป็นเวลา 1 เทอม ซึ่งหลังจบเทอมรวมทั้ง 23 โรงเรียนในโครงการนำร่อง คาดว่าจะได้นักเรียนที่เรียนมวยทั้งสิ้น 1,000 กว่าคน จากนั้นก็จะมาดูว่าต้องเพิ่มเติมอะไรบ้างและขยายวงให้กว้างขึ้นจนถึง 100 โรงเรียนต่อไป
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/S__13762594.jpg)
“ในการสอนไม่ใช่แค่ช่วยให้ห่างไกลยาเสพติด, ออกกำลังกาย หรือเป็นศิลปะป้องกันตัว แต่ยังสอนทั้งประวัติศาสตร์, ที่มาที่ไป, หรือจริยธรรมของการเป็นนักมวย เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจวัฒนธรรมไทยอีกด้วย” ผศ.พิมล กล่าว
ขณะที่ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณ ผศ.พิมล ที่นำมวยไทย เข้ามาสอนในโรงเรียนกรุงเทพฯ เพราะนี่เป็นการขับเคลื่อนด้านซอฟต์พาวเวอร์ อย่างรวดเร็ว และเป็นรูปธรรมที่สุดภายใน 3 เดือนเท่านั้น การจะให้เด็กๆ ได้รู้จักมวยไทย ต้องเริ่มจากโรงเรียนแบบนี้ นอกจากนี้ยังฝึกให้นักเรียนมีระเบียบวินัย ความเข้าใจกัน มีน้ำใจนักกีฬา ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเป็นพลเมืองที่ดี
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/05/S__13762595.jpg)
“ในอนาคตอยากขยายให้ได้ 200 โรงเรียน จาก 400 โรงเรียน ที่อยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานคร โดยเราพร้อมส่งเสริมการกีฬาอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราเรียนกีฬาที่มาจากต่างประเทศมาโดยตลอด ครั้งนี้ก็จะเป็นการส่งเสริมกีฬาไทยด้วย นอกจากนี้ ยังมองว่านี่จะเป็นตัวกระตุ้น เพื่อนำไปต่อยอดในการผลักดันเข้าสู่หลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนในอนาคตได้” ดร.ชัชชาติ กล่าว