เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. และ พ.ต.ต.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.กก.1บก.ป. นำกำลังจับกุม นายพลกร ศิริวรรณ อายุ 28 ปี ชาว จ.ลำปาง ผู้ต้องหาตามตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ 500/2564 ลงวันที่ 4 ต.ค. ในความผิดฐาน ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และไม่มีสิทธิสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงานหรือใชัยศตำแหน่ง เครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ พร้อมของกลาง สิ่งเทียมอาวุธปืน 3 กระบอก เครื่องหมายขีดความสามารถหลักสูตรรบพิเศษแขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก และจู่โจมนาวิกโยธิน แหวนสัญลักษณ์ตราแผ่นดิน แหวนสัญลักษณ์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ เสื้อกันกระสุน เสื้อกั๊กสีดำมีตรา บก.ป. ภาพถ่ายเคียงธงโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เอกสารให้มีและใช้อาวุธปืน อีกทั้งโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง จับได้ในอพาร์ตเมนต์ย่านซอยกอไผ่ ถนนเทพประสิทธิ์ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

สืบเนื่องจากเดือน พ.ย.63 ผู้ต้องหารายนี้อ้างตัวเป็นตำรวจ บก.ป. และเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 64 หลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจร้านอาหาร โดยออกอุบายว่าเป็นตำรวจ บก.ป. เป็นลูกน้องคนสนิทของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สมัยดำรงตำแหน่ง รอง ผบช.ก. ได้ไปเซ้งร้านอาหารแห่งหนึ่งมา และต้องการให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนทำธุรกิจร้านอาหารดังกล่าวด้วย เนื่องจากมีผลตอบแทนที่ดี ผู้เสียหายหลงเชื่อตกลงร่วมลงทุน ต่อมาเมื่อผู้เสียหายสอบถามถึงผลตอบแทนในการลงทุน ผู้ต้องหากลับขอผัดผ่อนการจ่ายผลตอบเเทนเรื่อยมา นอกจากนี้ยังมีสร้างความน่าเชื่อถือจากการที่ปลอมไลน์หลักฐานการพูดคุยระหว่างไลน์ที่ใช้ชื่อว่า “ผู้การกองปราบ”, “พี่ก้อง”, “THE KONG” กับไลน์ของผู้ต้องหาให้ทางผู้เสียหายดู เพื่อให้ผู้เสียหายเข้าใจว่าผู้ต้องหาพูดคุยกับ พล.ต.ท.จิรภพ จริง รวมทั้งแอบอ้างอีกว่า เป็นหลานของนายทหารระดับสูง โดยหลักฐานการพูดคุยดังกล่าว เป็นหลักฐานที่ผู้ต้องหาสร้างขึ้นมาเองทั้งหมด และทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้ไป 162 ครั้ง มูลค่าความเสียหาย 1.6 ล้านบาท

ต่อมาผู้เสียหายพยายามติดต่อกลับไปหาผู้ต้องหา ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้เชื่อว่าตนเองถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ บก.ป. จนนำมาสู่การขออำนาจศาลออกหมายจับ และจับกุมได้ในที่สุด เบื้องต้นสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง โดยสาเหตุที่อ้างเป็นตำรวจ เพราะว่าส่วนตัวมีความชื่นชอบตำรวจ อดีตเคยสมัครสอบเข้าโรงเรียนพลตำรวจแต่สอบไม่ติด ในส่วนทีมีการอ้างถึง พล.ต.ท.จิรภพ เพราะเห็นว่าเป็นตำรวจที่มีชื่อเสียงและภาพลักษณ์ดี มีความน่าเชื่อถือ และที่อ้างเป็นนายร้อยตำรวจรุ่น 64 เพราะด้วยช่วงอายุที่ใกล้เคียงกัน จะทำให้เหยื่อหลงเชื่อได้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า มีหมายจับติดตัวในคดีฉ้อโกง 2 หมาย ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง อีกทั้งเคยถูกจับกุมในคดีลักษณะเดียวกันในพื้นที่ ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยครั้งนั้นก่อเหตุออกอุบายหลอกซื้อสร้อยคอทองคำด้วยการหลอกโชว์สลิปการโอนเงินแต่ไม่โอนจริง