สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ว่า “เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา พายุฝนได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 35 ราย และบาดเจ็บอีก 230 ราย ในเมืองจาลาลาบัด ซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดนันกาฮาร์ และอีกหลายพื้นที่ใกล้เคียง” นายกุไรชี บาดลูน หัวหน้าแผนกสารสนเทศและวัฒนธรรม กล่าว และ “มีความเป็นไปได้ที่จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น”

ภาพที่บาดลูนแบ่งปันกับสื่อมวลชน เผยให้เห็นบุคลากรทางการแพทย์ กำลังทำการรักษาผู้บาดเจ็บ ขณะที่ภาพอื่นซึ่งถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นอาคารบ้านเรือน และเสาไฟฟ้าที่พังทลาย เบื้องต้นมีรายงานว่า บ้านเรือนมากกว่า 400 หลัง ได้รับความเสียหาย ในจังหวัดนันกาฮาร์ ส่วนในเมืองจาลาลาบัดมีรายงานการเกิดไฟดับ

นอกจากนี้ มีรายงานว่า ค่ายพักพิงชั่วคราวแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บริเวณจุดผ่านแดนทอร์คัม ที่ติดกับปากีสถาน ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อรองรับชาวอัฟกันที่เดินทางกลับประเทศ ได้รับความเสียหายด้วย “เราขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของเหยื่อ” นายซาบิฮุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกรัฐบาลตาลีบัน กล่าว “หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับคำสั่ง ให้เดินทางไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด” มูจาฮิดระบุผ่านเอ็กซ์ พร้อมเสริมว่าพวกเขาจะจัดหาที่พัก, อาหาร และยารักษาโรค ให้กับครอบครัวผู้พลัดถิ่น

โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้น หลังเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา คร่าชีวิตผู้คนไปหลายร้อยคน และทำลายพื้นที่เกษตรกรรม ส่งผลกระทบต่อประชากรร้อยละ 80 ในอัฟกานิสถาน ซึ่งอาศัยการทำเกษตรกรรมเพื่อความอยู่รอด

ทั้งนี้ ในบรรดาประเทศซึ่งยากจนที่สุดในโลก อัฟกานิสถานเผชิญกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากเป็นพิเศษ ส่งผลให้ในปีนี้ต้องเผชิญกับฤดูใบไม้ผลิที่เต็มไปด้วยฝน และฤดูหนาวซึ่งแห้งแล้งอย่างผิดปกติ.

เครดิตภาพ : AFP