สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ว่าสิงคโปร์ส่งข้าวขาว 1,000 ตัน และปลาซาร์ดีนกระป๋อง 300 ตัน ภายใต้โครงการช่วยเหลือครั้งที่ 4 เพื่อบรรเทาความไม่มั่นคงด้านอาหารในฉนวนกาซา ซึ่งเผชิญกับสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 9 เดือน

จนถึงขณะนี้ สิงคโปร์บริจาคเงินมากกว่า 17 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 458 ล้านบาท) เพื่อตอบสนองต่อวิกฤติด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา โดยในพิธีส่งมอบสิ่งของ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายวิเวียน บาลากริชนัน รมว.การต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า ความขัดแย้งในฉนวนกาซายืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่ 9 ชาวสิงคโปร์รู้สึกเศร้าโศกเสียใจอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ย่ำแย่ในฉนวนกาซา “ความทุกข์ทรมานที่เราทุกคนตระหนัก และได้เห็นนั้นบีบคั้นหัวใจอย่างสุดซึ้ง”

ขณะเดียวกัน บาลากริชนันกล่าวว่า การส่งมอบความช่วยเหลือครั้งล่าสุด แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องและแน่วแน่ของสิงคโปร์ เพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมาน ให้แก่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา “เราหวังว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งจะช่วยให้ตัวประกันทั้งหมดได้รับการปล่อยตัว และเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าถึงพลเรือนที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด” เขากล่าวเสริม

ทั้งนี้ สิงคโปร์สนับสนุนมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เกี่ยวกับการปฏิเสธการตั้งถิ่นฐานของชาวอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ และสนับสนุนมติที่เรียกร้องให้อิสราเอลยกเลิกมาตรการฝ่ายเดียวทั้งหมด เพื่อเปลี่ยนสถานะของนครเยรูซาเลม

บาลากริชนันเน้นย้ำว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์มีมายาวนาน และจุดยืนหลักของสิงคโปร์คือทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องค้นหาเจตจำนงทางการเมือง ที่จะกลับมาเจรจาอีกครั้ง โดยได้รับการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความคืบหน้าไปสู่ระบบ 2 รัฐ

นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนทางการปาเลสไตน์ “เราจะค้นหาแนวทางปฏิบัติ ซึ่งสิงคโปร์สามารถช่วยเพื่อนชาวปาเลสไตน์ของเราต่อไป ในช่วงเวลายากลำบากที่สุดเหล่านี้”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES