เมื่อวันที่ 25 ก.ค. นางโสภา เกียรตินิรชา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวถึงกรณีลูกจ้างบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) จำนวนหนึ่งรวมตัวประท้วงหน้าโรงกลั่นไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เนื่องจากไม่ได้รับค่าจ้าง ว่า จากการตรวจสอบข้อมูล ทราบว่า บริษัทไทยออยล์ มีการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่โครงการหนึ่ง มีการจ้างบริษัทผู้รับเหมาช่วง หลายบริษัท โดยมีบริษัทที่รับเหมาช่วงหลักๆ คือบริษัท UJV ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนประมาณ 2-3 สัญชาติ บริษัทนี้ก็มีการจ้างผู้รับเหมารับช่วงต่ออีก นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่รับเหมาช่วงต่อหลักอีกแห่งคือบริษัท ซิโนเพค เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเขาเองก็มีการจ้างผู้รับเหมาเล็กๆ อีก รวมๆ แล้วมีแรงงานกว่า 7,000-8,000 คน และมีปัญหาเรื่องการค้างจ่ายค่าจ้างจำนวนหนึ่งที่ออกมาเรียกร้อง

สำหรับบริษัทไทยออยล์นั้น ตนทราบจากข่าวที่ทางบริษัทออกมาบอกว่า ได้มีการจ่ายเงินงวดให้กับบริษัทรับเหมาช่วงหลักตรงตามเวลา ไม่ได้มีการค้างจ่าย แต่ผู้รับเหมาช่วงหลัก คือ UJV ต่อไปยังผู้รับเหมาช่วงรายต่อๆ ไปนั้น มีปัญหาอะไร ยังเป็นเรื่องเชิงลึก อาจจะมีปัญหาเรื่องการจัดการภายใน แต่ ณ วันนี้ มีลูกจ้างที่ออกมาประท้วง เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ประมาณ 300 กว่าคน ส่วนวันนี้มีประมาณร้อยกว่าคน ที่มีการค้างจ่ายค่าจ้าง ทั้งนี้มีแรงงานที่มาร้องเรียนที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชลบุรีแล้วประมาณ 80 คน ในส่วนนี้ทางสำนักงานจะเรียกนายจ้างสอบข้อเท็จจริง และออกคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างค้างจ่ายแก่ลูกจ้างที่มาร้อง หากยังไม่จ่ายก็จะมีการดำเนินคดีต่อ ส่วนการดำเนินการในส่วนของลูกจ้างคนอื่นๆ ที่ไม่ได้มาร้องเรียนที่สำนักงานนั้น เขาอาจจะอยู่ระหว่างการเรียกร้องเพื่อเจรจาหาทางออกเป็นการภายในของเขา ซึ่งเราเองก็ต้องเฝ้าระวังในส่วนนี้เช่นกัน โดยในขั้นตอนการเจรจานั้น หากยินดีให้เจ้าหน้าที่เราเข้าไปร่วม ทางเราก็ยินดี พร้อมรับเรื่องตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นที่สำนักงาน หรือว่านอกสถานที่

“ตอนนี้เราก็จะเคลียร์ให้กับคนที่เข้ามาร้องเรียนตรงที่สำนักงานฯ ก่อน เพราะบางคนเขายังอยากเจรจากับนายจ้างก่อน แต่บางคนเขาเกิดสิทธิแล้วว่ามีการค้างจ่ายค่าจ้างเลยมาร้องตรงกับกรมฯ ซึ่งเราก็ดำเนินการทันที คาดว่าน่าจะมีหนังสือคำสั่งออกไปใน 1-2 วันนี้” นางโสภา กล่าว

เมื่อถามถึงตัวเลขแรงงานที่ไม่ได้รับค่าจ้าง รวมถึงเงินค้างจ่ายเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ นางโสภา กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลตัวเลขที่หน่วยงานในพื้นที่ทยอยส่งเข้ามา เบื้องต้นเงินที่ค้างจ่ายราวๆ 2-3 เดือน

เมื่อถามว่า การออกคำสั่ง รวมถึงการเอาผิดจะต้องดำเนินการกับบริษัทที่รับช่วงต่อเท่านั้น หรือต้องโยงไปถึงบริษัทแม่ด้วยหรือไม่ นางโสภา  กล่าวว่า เบื้องต้น ต้องดำเนินการกับบริษัทรับเหมาช่วงต่อ ซึ่งเป็นนายจ้างเบื้องต้นก่อน แล้วค่อยๆ ไล่ขึ้นไปทีละขั้นๆ ย้ำว่าเราดำเนินการทันที เพราะนายจ้างก็อยู่ในพื้นที่ตรงนั้น น่าจะออกคำสั่งได้ภายในวันสองวันได้เลย.