สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงอังการา ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ว่า ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี เปิดเผยในงานแสดงเทคโนโลยีขั้นสูงที่เมืองอิสตันบูล ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เกี่ยวกับแผนงบประมาณ 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 161,730 ล้านบาท) ให้กับผู้ผลิตแบตเตอรี่ และ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 179,567 ล้านบาท) เพื่อจูงใจให้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของต่างประเทศ เข้ามาตั้งฐานการผลิตในตุรกี และต้องมีการผลิตอย่างน้อย 1 ล้านคันต่อปี
“เราได้ทำให้การผลิตแบตเตอรี่เป็นประเด็นสำคัญลำดับแรก สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ของตุรกี เพื่อให้เราสามารถแข่งขันได้” เออร์โดกันกล่าว เงินนี้จะรวมอยู่ในโครงการเงินอุดหนุนชิปคอมพิวเตอร์ มูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 179,567 ล้านบาท) ซึ่งจะทำให้ตุรกีมีรายจ่ายในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 15,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 538,837 ล้านบาท) “เป้าหมายของเราคือ การดึงดูดการลงทุนรถยนต์แห่งอนาคต รวมถึงการดึงดูดการวิจัยและพัฒนา และกิจกรรมทางวิศวกรรมเข้ามาในประเทศของเรา”
นอกจากนี้ ผู้นำตุรกีประกาศงบประมาณอุดหนุน 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 150,903 ล้านบาท) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม
ทั้งนี้ ตุรกีมีแผนที่จะใช้ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ และข้อตกลงศุลกากรของสหภาพยุโรป (อียู) เพื่อดึงดูดนักลงทุนชาวจีน ซึ่งต้องการเข้าถึงตลาดในยุโรปโดยไม่เสียภาษี เช่นเดียวกับที่เคยร่วมมือกับ ‘บีวายดี’ บริษัทยานยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ เมื่อต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
ขณะที่ผู้ผลิตยานยนต์จีนอีก 5 ราย กำลังพิจารณาลงทุนในตุรกีด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ ท็อกก์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติตุรกี และฟาราซิสของจีน ได้ร่วมมือกันผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในตุรกี.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES