เมื่อวันที่ 14 ต.ค. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. ทำการสอบปากคำ น.ส.กมลวรรณ ปิ่นทองพันธ์ อายุ 25 ปี หรือซ้อปลา แม่ค้าออนไลน์เจ้าของเพจ ซ้อปลา มาดามลูกเหนียง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา คดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

ภายหลัง พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า เดิมทีผู้ต้องหาติดต่อว่าจะมอบตัวแต่มีการบ่ายเบี่ยงหลายครั้ง ชุดสืบสวนเกรงว่าจะหลบหนีจึงนำหมายศาลเข้าจับกุมตัวได้เมื่อคืนนี้ตอนตี 2 ส่วนพฤติการณ์ของผู้ต้องหาเริ่มก่อเหตุตั้งแต่ปี 2561 จากการหลอกขายทอง ก่อนจะมาปี 2563 ใช้วิธีชักชวนผู้เสียหายหลอกนำเงินมาลงทุนในบ้านแชร์ออมเงิน ชักชวนว่าจะให้ดอกเบี้ยร้อยละ 20 หรือคิดเป็น 240% ของการให้ดอกเบี้ยของธนาคาร จนเกิดแชร์ขยายวงออกไปเรื่อย ๆ กระทั่งไม่สามารถนำเงินไปจ่ายให้กับผู้เสียหายได้ ทำให้ล้มแชร์ ส่วนการสอบสวนผู้ต้องหารับว่า มีเงินเก็บไว้ที่บ้านบางส่วน เล่นแร่แปรธาตุเป็นทองคำบางส่วน อ้างว่าไม่ตั้งใจเบี้ยวลูกค้า ซึ่งก็เท่ากับเป็นการยอมรับในข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องที่ไปแจ้งความกับตำรวจก็นับเป็นอีกเรื่องหนึ่งต้องแยกเป็นอีกคดี

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีนี้สืบเนื่องมาจากมีผู้เสียหายกว่า 200 คนทั้งในพื้นที่ จ.สงขลา และต่างจังหวัดเข้าแจ้งความกับตำรวจว่า ถูกซ้อปลาอมเงินจากการลงทุนแชร์ออนไลน์และแชร์ทองมูลค่าความเสียหายราว 60 ล้านบาท ก่อนที่ต่อมาตำรวจจะนำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักใน ต.คลองรี อ.สทิงพระ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่กลับพบเพียง นายจตุพล ปิ่นทองพันธ์ อายุ 38 ปี สามีของซ้อปลาอยู่ในบ้าน จึงควบคุมตัวไดำเนินคดีฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

ผบช.ก. ยังได้กล่าวในตอนท้ายว่า ในส่วนกรณีที่ ซ้อปลาออกมาร้องเรียนว่าถูกตำรวจรีดเงิน 5 ล้าน แลกกับการปล่อยตัวหลังถูกตำรวจเข้าตรวจค้นที่บ้านพัก เรื่องนี้ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามฝากถึงพี่น้องประชาชนที่หากพบเจอลักษณะการโฆษณาชวนเชื่อลักษณะให้ดอกเบี้ยสูงขนาดนี้ ขอให้คิดไว้เลยว่า อาจจะเป็นการหลอกลวง เนื่องจากว่าธนาคารปกติยังให้ดอกเบี้ยสูงได้เพียงปีละ 2% จึงไม่มีที่ใดที่จะมีการให้ดอกเบี้ยได้สูงกว่าและการที่ดอกเบี้ยสูงถึง 240% ย่อมไม่ใช่ข้อเท็จจริง หากพบเห็นพฤติการณ์ในลักษณะแบบนี้หรือตกเป็นผู้เสียหายสามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการโทรศัพท์ส่วนกลางได้ทันที.